ญาติวีรชนพฤษภา35 นำทีมถกปัญหาคอร์รัปชั่น นักการเมืองโกงภาษี

2017-03-18 17:20:26

ญาติวีรชนพฤษภา35 นำทีมถกปัญหาคอร์รัปชั่น นักการเมืองโกงภาษี

Advertisement

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จัดอภิปรายสาธารณะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ชาตินี้หรือชาติหน้า? ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ การตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น กรณีการโกงภาษีหุ้นชินคอร์ปและภาษีเชฟร่อน

 

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ระบุว่า หลังจากมีการหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเห็นพ้องกันว่า จะต้องดำเนินการตามมาตรา 61 ตามประมวลรัษฎากร ให้กรมสรรพากรทำหน้าที่ในการประเมินภาษีเพื่อเรียนคืนภาษีหุ้นชินคอร์ป ภายใน3วัน และจะไม่มีการเสนอให้มีการใช้คำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 ในกรณีดังกล่าว
นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่าหลังจากนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้จะต้องติดตามว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณและย้ำชัดเจนว่ากรมสรรพากรต้องทำหน้าที่ สตง.จึงไม่จำเป็นต้องส่งหนังสือเตือนอีกและ ถ้าทำตามหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนการประเมินวงเงินนั้น ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ สตง. ว่าจะประเมินเท่าไหร่ แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และหากไม่มีการดำเนินการก็อาจจะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรายการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.
ยืนยันว่า กรณีนี้สุดท้ายจะต้องมีคนรับผิดทางอาญาแน่นอน ยืนยันไม่ได้เฉพาะเจาะจงหรือคำสั่งของฝ่ายบริหาร แต่เป็นการทำตามหน้าที่เพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม โดยไม่ได้สนใจว่าใครชื่ออะไร รวมทั้งกรณีรายชื่อนักการเมืองอื่นๆ กว่า 60 รายชื่อที่มีการตรวจสอบในขณะนี้ และไม่ได้ตรวจเฉพาะนักการเมือง แต่นักธุรกิจรายใหญ่ก็มีการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้มีมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท และต้องมีคนรับผิดชอบ ดังนั้นหากรู้ตัวว่าชำระภาษีไม่ครบก็รีบไปชำระภาษี โดย สตง.จะพิจารณาจากความสัมพันธ์ของรายได้ และการชำระภาษีในช่วงก่อน ขณะและพ้นตำแหน่ง ทั้ง 2 รัฐบาลคือสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายพิศิษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สตง.ยืนยันว่าจะลุยตรวจสอบทุกข้อครหาที่มีหนังสือร้องเรียนเข้ามาเพื่อรักษาเงินแผ่นดินโดยเฉพาะกรณีการโกงภาษีหุ้นชินคอร์ปและภาษีเชฟร่อนที่ต้องตรวจสอบ


ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากใช้เฉพาะมาตรา 61 ประมวลรัษฎากรนั้น เป็นเรื่องที่ยากและคาดการณ์ผลได้ยาก จึงน่าจะใช้ มาตรา 44 ขยายเวลาในการอุทธรณ์ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรสงการคลังมีอำนาจในการออกหมายเรียกตามมาตรา 3 วรรค 2 เพื่อขยายเวลาออกหมายเรียกกรณีผู้อยู่ต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยใช้กฎหมายที่เป็นโทษกับผู้เสียภาษี ซึ่งยอมรับว่าอาจจะอึดอัดเพราะที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการที่เป็นคุณต่อผู้เสียภาษี
นอกจากนี้ยังเสนอว่า ควรต้องแก้กฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรการทางการเงินของบริษัทต่างๆ เช่นการจัดซื้อ การขายทั้งในและต่างประเทศ เหมือนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และให้สื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบด้วย
ด้านนางรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีภาษีเชฟร่อน ว่า การทุจริตของนักการเมืองและเอกชน จะทำไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการให้ความร่วมมือ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะรู้จักช่องโหวของกฎหมายดีที่สุด จึงมีส่วนร่วมให้คำแนะนำนักการเมืองและเอกชนให้ดำเนินการ ขณะที่กรณีหุ้นชินคอร์ป ข้าราชการแนะนำให้มีการซื้อขายนอกตลาด จึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น และเชื่อว่าหากดำเนินการจริงจังต้องมีกรณีต่างๆ มากกว่า กรณีหุ้นชิน ซึ่งขึ้นอยู่ที่รัฐบาลชุดนี้กล้าทำหรือไม่ หากไม่ทำก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ด้วย