ทีมสัตวแพทย์จากสถาบันคชบาลในพระอุปถัมภ์ฯ รพ.ช้าง จ.กระบี่ และ จ.สุรินทร์ ร่วมกับปศุสัตว์ จ.ตรัง ออกตรวจสุขภาพช้างป้องกันโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้างวัยเด็กซึ่งปีนี้ล้มแล้ว 3 เชือก ขณะที่ช้างเพื่อการท่องเที่ยวเสี่ยงติดเชื้อในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
วันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 3 ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทีมสัตวแพทย์จากสถาบันคชบาลในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งประกอบด้วย สัตวแพทย์จาก รพ.ช้าง จ.กระบี่ และ จ.สุรินทร์ ร่วมกับสัตวแพทย์จากสำนักงานปศุสัตว์ จ.ตรัง ออกตรวจสุขภาพให้กับช้างวัยเด็กและช้างเลี้ยงกว่า 30 เชือกที่อยู่ใน 6 อำเภอของ จ.ตรัง หลังพบมีลูกช้างแสนรู้วัย 3 ปี ชื่อพลายธันวา ล้มด้วยโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสหรือโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งอย่างเฉียบพลันและล้มลงเป็นเชือกที่ 3 ในรอบปี 2562 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยในปีนี้มีลูกช้างใน จ.ตรังและจ.กระบี่ล้มด้วยโรคดังกล่าวแล้วรวม 3 เชือก ทีมสัตวแพทย์จึงต้องเร่งฉีดวัคซีนและให้ยาฆ่าเชื้อในลูกช้างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังลูกช้างเชือกอื่นๆ ในจังหวัดเดียวกัน
ขณะที่ช้างชักลากไม้ยางพาราและช้างเพื่อการท่องเที่ยว มีโอกาสติดเชื้อจากอาหาร น้ำและดินในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนมากพบช้างป่วยจากการบาดเจ็บระหว่างการทำงาน เช่น ขาบวม แผลฝีหนอง มีขี้ตาและถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย ซึ่งสัตวแพทย์ได้แจกยาให้กับเจ้าของช้างและควาญช้างไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี โดยได้ชมการแสดงของพลายปีโป้ ช้างแสนรู้วัย 18 ปีโชว์เล่นฮูลาฮูปและเป่าเมาท์ออแกน พร้อมหยิบหมวกจากพื้นวางบนศีรษะของสัตวแพทย์ด้วย
ด้านสัตวแพทย์หญิง เบญจธรรม ไทยธรรม นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ รพ.ช้าง จ.กระบี่ สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ กล่าวว่า โดยทั่วไปสุขภาพช้างที่ จ.ตรังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีแค่พยาธิและได้จ่ายยาบำรุงให้ โดยโรคที่น่าห่วงที่สุดในช้างเด็กคือโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสที่เพิ่งล้มไปก่อนหน้านี้ หากเป็นช้างโตจะกินดินที่สกปรกทำให้ท้องเสีย ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยมาก