“กระเบนราหู” คว้ารางวัลใหญ่ ชนะการประกวด เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 5

2019-07-10 16:10:54

“กระเบนราหู” คว้ารางวัลใหญ่ ชนะการประกวด เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 5

Advertisement

ไม่ธรรมดา “กระเบนราหู” อันดับ 1 ในรางวัลภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมชนะการประกวด รมว.วธ. พร้อมหนุนกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ของอาเซียน 


“กระเบนราหู (Manta Ray)” ภาพยนตร์น้ำดีที่มีเนื้อหาสะท้อนถึงความเปราะบาง และความบกพร่องไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ ก่อนจะนำไปสู่การเกิดโศกนาฏกรรมในที่สุด สามารถเข้าชิงและคว้ารางวัลเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 5 ไปอย่างน่ายินดี






เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ สกาย ล็อบบี้ ชั้น 8 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ “นายวีระ โรจน์พจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ) ได้เป็นประธานในพิธีปิดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานครฯ 2562 (BANGKOK ASEAN FILM FESTIVAL 2019) ครั้งที่ 5 และยังได้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดภาพยนตร์ ทั้งหมด 3 รางวัล ได้แก่




รางวัล “Best ASEAN Film” ซึ่งภาพยนตร์ที่สามารถคว้าไปได้คือ “กระเบนราหู” เป็นตัวแทนประเทศไทย รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินสด10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ






รางวัล “Jury Prize” ได้แก่เรื่อง “Balangiga Howling Wilderness” จากประเทศฟิลิปปินส์ รับถ้วยรางวัลพร้อมกับเงินสด 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

และรางวัล “Special Mention” ได้แก่เรื่อง “The third Wife” จากประเทศเวียดนาม รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินสด2,000ดอลลาร์สหรัฐฯ

พร้อมกันนี้ก็ยังได้มอบรางวัลบุคคลเกียรติยศ (Life Time Achievement Award) ให้แก่ “Garin Nugroho” ผู้กำกับภาพยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติของประเทศอิโดนีเซีย




นายวีระ กล่าวว่า "ตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 ณ เมืองยอกยาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เห็นชอบให้ปี 2562 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Cultural Year 2019) เพื่อส่งเสริมเผยแพร่วัฒนธรรมอาเซียนในฐานะประชาคมหนึ่งเดียวสู่การรับรู้ของสังคมโลกด้วยแนวคิด "ASEAN : Oneness to the World" รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน






รวมถึงขยายตลาดภาพยนตร์อาเซียนสู่ระดับนานาชาติ และผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทยเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทำ ผลิต เผยแพร่ และจำหน่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน (Hub of ASEAN) ตลอดระยะเวลาของการจัดเทศกาลได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากที่มาจองบัตรเพื่อชมภาพยนตร์ และมากขึ้นๆ ในทุกปี แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่มีความพร้อมในการจัดเทศกาลในครั้งนี้และพร้อมหนุนกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ของอาเซียนพบกันใหม่ปีหน้า"