"จิรายุ" ตั้งกระทู้ถามสดกรณีคนร้ายทำร้าย "จ่านิว" แต่คดียังไม่คืบหน้า ด้านรมช.กระทรวงกลาโหมชี้แจงอยู่ระหว่างดำเนินการ สอบพยานไปแล้วหลายปาก วันนี้สเก็ตภาพคนร้าย พร้อมดูแลความปลอดภัย "จ่านิว" และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกคน
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.)ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องมาตรการในการป้องกันเหตุ และติดตามจับกุมดำเนินคดีผู้ที่ทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมือง จากกรณีของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ที่ถูกคนร้ายดักตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่คดียังไม่คืบหน้า ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
โดยนายจิรายุได้ขออนุญาตนำเสื้อเปื้อนเลือดของจ่านิวที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุมาแสดงในที่ประชุมแต่นายศุภชัยโพธิ์สุ ประธานในที่ประชุมได้ปฏิเสธที่จะให้นำเสื้อดังกล่าวเข้ามาที่ประชุม จากนั้นนายจิรายุ ได้อภิปรายพร้อมเปิดภาพและสถิติของนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะนำภาพลำดับเหตุการณ์การทำร้ายจ่านิว มาแสดงต่อที่ประชุม พร้อมระบุว่าแม้จะมีกล้องวงจรปิด ในหลายจุดแต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับคนกระทำความผิดได้
จากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ที่ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมให้มาตอบกระทู้แทน ระบุว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะต้องไม่เกิดขึ้นกับใครไม่ว่าจะประชาชนหรือนักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่ง รมว.กลาโหมได้แสดงความห่วงใย และสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลอย่างใกล้ชิด นำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว รวมถึงวางมาตรการต่างๆเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ซึ่งตนได้สั่งการตำรวจนครบาล 3 เจ้าของพื้นที่ จัดกำลังชุดสายตรวจไปดูแลบ้านนายสิรวิชญ์รวมถึงนักกิจกรรมคนอื่นๆด้วย หากใครรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยก็สามารถทำหนังสือแจ้งมาได้เหมือนเช่นนายเอกชัย หงส์กังวานที่ขอความดูแลผ่านทางกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็ได้จัดกำลังตำรวจไปดูแลให้
ขณะที่นายจิรายุ ได้ลุกขึ้นถามเพิ่มเติม กรณีที่มีบุคคลในหน่วยงานบางหน่วยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นประเด็นเรื่องชู้สาว หนี้สิน และเป็นเรื่องราวในรัฐบาล โดยพล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุเกิดจากอะไรยังไม่สามารถระบุได้ไม่สามารถตัดสินได้ว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องโดย จากข้อมูลที่ตนได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่คือมีการสืบพยานไปแล้วทั้งหมด 8 ปาก และประจักษ์พยาน 3 ปากวันนี้มีการสเก็ตภาพ คนร้ายรวมถึงมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม แต่ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาในการทำงานเนื่องจากต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างรอบคอบและรัดกุมมากที่สุด อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงจะต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน