เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายจี้เซเว่นชิงเงิน 2.3 ล้านได้แล้ว เผยเป็นหญิงสาวอายุ 25 ปี อดีตพนักงานเก่าที่ถูกไล่ออก
วันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้มีดสปาต้าบุกจี้พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดตู้เซฟชิงเงินสด 2.3 ล้านบาท แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภาค 3 พร้อมทีมพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติม และให้กำลังใจพนักงานในร้าน หลังเกิดเหตุคนร้ายถือมีดสปาต้าบุกจี้ข่มขู่พนักงานก่อนเปิดตู้เซฟชิงเงินสด 2.3 ล้านบาท หลบหนีไป
จากแนวทางการสอบสวนพบว่า คนร้ายก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว รู้จักพื้นที่และเส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ที่สำคัญคนร้ายรู้จุดโฟกัสของเคาน์เตอร์ในร้านว่ามีตู้เซฟวางอยู่และมีกุญแจไข รวมทั้งรู้วิธีไขกุญแจเพื่อเปิดตู้เซฟนำเงินออกมา และใช้เวลาก่อเหตุอย่างใจเย็นนาน 5 นาที ไม่มีอาการตื่นกลัวสะทกสะท้าน
ตำรวจจึงพุ่งเป้าคนร้ายน่าจะเป็นคนภายใน หรือรู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มพนักงานในร้านเป็นอย่างดี ตอนนี้ชุดสืบสวนกำจัดวงแคบเจาะจงตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างตามประกบดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ประสานร้านสะดวกซื้อทั่วไป ที่ตั้งอยู่พื้นที่ห่างไกล เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งระบบเตือนภัย กล้องวงจรปิด และมาตรการเฝ้าระวังบุคคลผิดสังเกต เช่น สวมเสื้อแจ็กเก็ต สวมหมวกกันน็อคเข้ามาในร้าน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนอีก
นอกจากนี้ มีรายงานว่าฝ่ายบริหารร้านสะดวกซื้อ ได้มีบทลงโทษสั่งพักงานผู้จัดการสาขา 1 คน และพนักงานอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการรณ์โดยไม่มีกำหนด เนื่องจากปล่อยให้คนร้ายจี้ชิงเงินจำนวนมากอย่างง่ายดาย
ล่าสุด เวลา 15.00 น. ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ระดมทีมสายสืบเร่งแกะรอยหาเบาะแสคนร้ายใช้เวลา 36 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ เป็นผู้หญิง อายุ 25 ปี รูปร่างหน้าตาดี ทราบชื่อ น.ส.รจนา ช่องกลาง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138/1 หมู่ 7 ต.ด้านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยไล่ติดตามจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาหลบหนี รวมทั้งข้อมูลจากคำให้การของพยานแวดล้อมที่อยู่ในร้าน ก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ที่บ้านด่านคล้า ขณะเจอทีมตำรวจสืบสวน หญิงสาวถึงกลับหน้าถอดสี เพราะกลัวความผิด จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.จอหอ
หลังเค้นสอบอยู่นาน 2 ชั่วโมง ทีแรกผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าคนร้ายที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด มีลักษณะคล้ายรูปร่างตนเอง กระทั่งยอมเปิดปากรับสารภาพแต่โดยดี
เบื้องต้น หญิงสาวให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นอดีตพนักงานเก่าประจำร้าน แต่ถูกไล่ออกเมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมขโมยเงินของทางร้าน ก่อนถูกจับได้แล้วถูกไล่ออกจากงาน ครอบครัวติดหนี้สินจำนวนมาก ประกอบกับตกงาน ไม่มีงานทำ เป็นภาระให้สามีทำงานเลี้ยงดูแต่เพียงฝ่ายเดียว และต้องดูแลลูกชายอายุ 1 ขวบเศษ ประกอบกับแค้นใจที่เคยถูกไล่ออกจากงาน โดยอาศัยประสบการณ์เคยทำงานในร้าน ทำให้ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวภายในร้านเป็นอย่างดี รู้ว่าช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก่อนสิ้นเดือน ทางร้านจะเก็บเงินไว้ในตู้เซฟเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านพัก ที่บ้านด่านคล้า ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มาที่ร้านซึ่งอยู่ห่างกัน 15 กิโลเมตร ลงมือก่อเหตุแต่เพียงลำพังผู้เดียว โดยไม่มีผู้ใดรู้เห็นด้วย
หลังก่อเหตุสำเร็จได้โยนหมวกกันน็อกทิ้งลงป่าข้างทาง ก่อนนำเงินที่ใส่กระเป๋าสะพายมา ทำการเปลี่ยนถ่ายใส่ถุงพลาสติก นำไปซุกซ่อนไว้ในถังส้วมหลังบ้านพัก ยังไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว เตรียมวางแผนจะนำเงินไปใช้หนี้ และหนีไปทำงานที่ประเทศเกาหลี แต่ถูกตำรวจไล่ล่าติดตามจับกุมได้เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลว่ามีผู้อื่นร่วมมืออีกหรือไม่ จากนั้นจะควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.จอหอ ต่อไป