“สารวัตรแย้” ให้ปากคำตำรวจ ปมพัสดุยาเสพติด

2019-06-26 15:50:48

“สารวัตรแย้” ให้ปากคำตำรวจ  ปมพัสดุยาเสพติด

Advertisement

“สารวัตรแย้” เดินทางขึ้นโรงพักพยุหะคีรี แจงพนักงานสอบสวน หลังมีชื่อโผล่บนกล่องพัสดุยัดไส้ยาบ้าส่งจาก ปณ.สตึก

วันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พิเชษฐ หรือ สารวัตรแย้ เสาแบน สารวัตร กองกำกับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ. สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังมีชื่อปรากฎในกล่องพัสดุยัดไส้ยาเสพติด ที่ถูกส่งจาก ปณ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี และเมื่อนางประชุม มากบุญ อายุ 61 ปี มารดาของ พ.ต.ท.พิเชษฐ ออกมาเซ็นชื่อรับพัสดุจากบุรุษไปรษณีย์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าคุมตัวไปสอบสวนทันที

เมื่อสื่อมวลชนสอบถามถึงเรื่องการเตรียมตัวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ สารวัตรแย้ เปิดเผยเพียงว่า รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เตรียมอะไรมามาก เพราะตนจะให้การแต่ความจริง และยังไม่ได้มีการตั้งทนายไว้แต่อย่างใด จากนั้นจึงเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำทันที




ด้าน พ.ต.อ.ณรงศักดิ์ พรหมทา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ นำหลักฐานพยาน ที่กล่าวอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งมาชี้แจง และพนักงานสอบสวนจะได้สอบในประเด็นต่างๆ ที่สารวัตรแย้บอกว่าถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ข้อมูลจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด-ชุดสืบสวนฯ ที่ไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว และจะนำพยานหลักฐานทั้งหมดจะมายืนยันกันอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้ประสานไปยังไปรษณีย์ฯ พบว่ามีการส่งจดหมาย หรือสิ่งของไปยังบ้านหลังดังกล่าวมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งก็ต้องตรวจสอบละเอียดต่อไปว่ากี่ครั้งและมีอะไรบ้าง เพื่อนำเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมในสำนวนการสอบสวนต่อไป



ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ตัดประเด็นว่า พ.ต.ท.พิเชษฐ ถูกกลั่นแกลงหรือเข้าไปเกี่ยวข้องออกจากกันหรือยัง พ.ต.อ.ณรงศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และเป็นหน้าที่ของ พ.ต.ท.พิเชษฐ จะต้องนำเอาพยาน หลักฐานมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะไปตามสอบสวนว่าบุคคลที่กล่าวอ้างเกี่ยวพันกับ พ.ต.ท.สุรเชษฐ อย่างไรหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งประเด็นสอบไว้หมดแล้ว ชุดสืบสวนสอบสวนฯ ก็ประสานงานกันตลอดมีข้อมูลพอสมควร

โดยคดีนี้ ตำรวจกองปราบปราม ชุดปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อร่วมสอบปากคำ นายอนุศักดิ์ ผู้ต้องหา เพื่อหาข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม ในการสาวหาตัวผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการทำเป็นกลุ่มขบวนการใหญ่  เนื่องจาก นายอนุศักดิ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่ายาไอซ์ ยาอี ที่ส่งให้กับสารวัตรแย้ และยาบ้าอีก 5 กล่องที่ส่งกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ ถูกส่งมาจาก จ.พิษณุโลก พร้อมรายชื่อลูกค้า และบัตรประชาชนที่ใช้เป็นหลักฐานในการส่งพัสดุที่ไปรษณีย์ด้วย พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.สตึก กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาก็ให้การเป็นประโยชน์ ที่จะสามารถเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวได้ แต่จะเกี่ยวข้องกับสารวัตรแย้ หรือไม่ ต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการ ส่วนพัสดุบรรจุยาบ้าที่ตรวจค้นเจอภายในบ้านเช่าอีก 1 กล่อง และยังไม่ได้ส่งให้ลูกค้านั้น ทราบข้อมูลแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

นอกจากจะจับกุมตัว นายอนุศักดิ์ แล้วเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการจับกุมภรรยา ของนายอนุศักดิ์ ที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าด้วย โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.สตึก ได้แจ้งข้อหาทั้ง 2 คน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอื่น พร้อมทั้งค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งคาดว่าหลังสอบสวนเสร็จจะควบคุมตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันพรุ่งนี้