อยู่ๆ หันหลังให้ทางโลกมุ่งหน้าเข้าป่า "โดโด้ ยุทธพิชัย" ถูกหาว่าเพี้ยน (มีคลิป)

2019-06-18 17:55:47

อยู่ๆ หันหลังให้ทางโลกมุ่งหน้าเข้าป่า "โดโด้ ยุทธพิชัย" ถูกหาว่าเพี้ยน (มีคลิป)

Advertisement



เคยเป็นพระเอกมาดเข้มที่สาวๆ ในยุค 90 เห็นเป็นต้องกรีดร้อง สำหรับ "โดโด้ ยุทธพิชัย ชาญเลขา" เขาผู้นี้เคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการเป็นนักเทควันโดที่มีชื่อเสียง เขามีโรงเรียนสอนเทควันโดของตนเอง โดยชื่อว่า "โดโด้" นั้นมาจากการเล่นเทควันโดจนเรียกกันติดปากมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่เดิมชื่อเล่นว่า "เอ๋" ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีประเด็นคบหาแฟนคราวลูก แถมยังเจอปัญหาถูกมองว่าทอดทิ้งครอบครัวเก่า อีกทั้งทั้งโดโด้ยังชอบเข้าป่าจนถูกมองว่าบ้ากันเลยทีเดียว





ล่าสุด "โดโด้" ควงภรรยา น้ำหวาน และลูกชาย น้องอเล็กซ์ มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร

นานๆ ทีออกรายการพร้อมหน้า พร้อมตา ?


โดโด้ : นี่ครั้งแรกครับ

อายุห่างกันกี่ปีค่ะ ?
น้ำหวาน : 20 ปีค่ะ





เรื่องอายุเป็นปัญหาไหม คุยกันไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ ?
โดโด้ : คุยกันรู้เรื่องครับ แต่ที่ไม่รู้เรื่องน่าจะเป็นเรื่องระบบการจัดการ อย่างเมื่อกี้เราคุยกันนอกรอบ คำว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน เราผ่านมาก่อน แล้วเขาไม่เห็น เขาไม่เข้าใจ จนกว่าเขาจะผ่านเข้าไปอยู่ในบริบทนั้นเองเขาถึงเข้าใจ พอเราเตือนเยอะๆ ก็จะมีปากเสียงกัน

เห็นว่าวันนี้เกือบมารายการไม่ได้ต้องไปแจ้งความ มันเกิดอะไรขึ้น ?
โดโด้ : คือเราตัดสินใจสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่เราจะไปแจ้งความ คือใช้คำว่าโดนหลอกดีกว่า ระดมเงินทุนไปทำธุรกิจ เขาบอกว่าจะเอาเงินไปประมูลงาน แล้วคราวนี้เรามารู้ตอนหลังว่ามันไม่ใช่ แล้วตอนหลังก็มารู้อีกว่าเราไม่ได้โดนคนเดียว เราโดนไป 8 แสน แต่คนอื่นหนักกว่าเราอีก แล้วก็พอรู้ก็เริ่มทวงคืนมาได้ระดับนึง แต่ได้ข่าวมาไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าว่าเขาเอาชื่อเราไปอ้างด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความทีเดียว





แล้วทำไมพี่ไม่มีการจดทะเบียน หรือแต่งงาน ?
โดโด้ : จดทะเบียนคิดว่าจะจัดการให้เรียบร้อย แต่เรื่องการแต่งงาน ตอนแรกเราจะจัดการให้เรียบร้อยอยู่แล้ว แต่ตัวเขาเองนั่นแหละที่มีความเชื่อบางอย่างกับดวงของเขา

น้ำหวาน : คือคบกันมานานแล้วก่อนหน้าที่จะมีน้อง พอมีน้องปุ๊บพี่โด้บอกว่าต้องแต่ง แต่พอมีลูกปุ๊บเราก็มีเหตุผลหลายๆ อย่าง อยากเก็บเงินบ้างหรืออะไรหลายๆ อย่าง ที่สำคัญจริงๆ ดวงเรากับดวงเขาเหมือนเขาเคยแต่งงานมาแล้วเรายังไม่เคยถ้าเกิดแต่งไปอาจอยู่ด้วยกันไม่ได้ แม่ก็เลยบอกว่างั้นผูกข้อไม้ ข้อมือตามประเพณีบ้านเรา แล้วก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ





แล้วเส้นทางความรักไปเจอกันยังไง ?
โดโด้ : ไปเจอเขาเป็นแม้วอยู่ที่พืชสวนโลก เขาเป็นนักศึกษาอยู่เราก็ไปทักทายคิดว่าเป็นเด็กแม้ว เราก็ได้คุยกันตรงนั้นก็ประทับใจ ได้ทักทายกันมาเรื่อยๆ จนวันนึงเขาจบจากตรงนั้นแล้วมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ เราก็จัดการเป็นธุระหาที่เรียนให้

น้ำหวาน : ก็เจอกัน 3 ครั้งแล้วให้เบอร์ เหมือนเขาแอบตามเราหรือเปล่าไม่รู้ไปที่ไหนก็เจอ แล้วเราไม่ได้รู้จักเขา ไม่รู้วว่าเขาเป็นพี่โดโด้ด้วยซ้ำ



นานไหมกว่าจะตกลงเป็นแฟนกัน ?
น้ำหวาน : พอเราคุยกับเขา เราก็ได้ยินเรื่องของเขาผ่านคนรอบตัวเราแล้วว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้วข่าวที่ออกไปมันก็แรง แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรลองดูเขาอาจจะไม่ได้ชออบเราขนาดนั้นก็ได้ก็คุยกันไปก่อน

ตอนนั้นที่พี่ถูกใจคุณน้ำหวาน สภาพจิตใจช่วงนั้นพี่ยังเสียสูญกับความรักอยู่ไหม เห็นบอกว่าช่วงนั้นกลัวการผูกมัด ?
โดโด้ : คือตอนแรกมันระบมอยู่ ยังระแวงผู้หญิงทุกคน ตอนแรกน้ำหวานก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ว่าพอได้พูดคุยน้ำหวานข้อดีและข้อเสียเป็นอันเดียวกัน เวลาเขาพูดออกมามันจะชัดเจน บางอารมณ์ก็เป็นข้อดีบางอารมณ์ก็เป็นข้อเสีย



คบกันมาเป็น 10 ปีเคยจับได้ไหมว่าพี่โด้มีกิ๊ก ?
น้ำหวาน : มันไม่เชิงว่ามีใครนะ แต่เขามีคนเข้ามาคุยเยอะ มีทั้งคนที่เจอในที่ทำงาน มีทั้งในเฟซบุ๊ก

โดโด้ : เอาสั้นๆ ก็คือเหตุผลที่ไม่เล่นเฟซบุ๊กจนถึงปัจจุบันนี้

ตอนนั้นที่พี่มีคุย พี่ไม่กลัวน้องน้ำหวานเสียใจหรอ ?
โดโด้ : มันเป็นข้อตกลง คือตอนแรกเราไม่ได้คิดว่าจะมาถึงตรงนี้ มันเป็นความหวังดีจริงๆ เราอยู่ในวงการการศึกษาเราก็แนะนำเขาได้ จนเกิดเป็นความผูกพัน วันที่มาคบกันพี่บอกว่าเออ คบกันแบบนี้นะ ให้ความรักและเมตตา นั่นหมายความว่าอย่าพยายามเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกัน ถ้าวันไหนน้ำหวานเจอใครก็บอกกันดีๆ ไปจากกันได้ไม่มีปัญหา เรารู้ตัวว่าเขาอายุห่างจากเราเยอะ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะดูแลเขาไปได้ตลอดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นวันนึงถ้าเขาไม่พอใจที่จะอยู่กับเราแล้วก็บอก



มีอยู่ช่วงหนึ่งพี่พาเขาเข้าป่าไปจำศีล ?
โดโด้ : อันนี้ตั้งแต่แรกๆ ที่เจอกันเลย เราบอกเขาว่าเราไม่ได้อยู่บ้านอย่างเดียวนะเราอยู่ป่า อยู่วัดด้วย ก็ไปด้วยทุกที่ ถามว่าไปอยู่ทำอะไรในป่า ก็ไปอยู่กับพระสวดมนต์

อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่บางคนบอกว่าพี่โด้บ้าหรือเปล่า ?
โดโด้ : ก็เป็นไปได้ ในเรื่องของความบ้า น่าจะเป็นในเรื่องของการสื่อสารของเรามากกว่า พอเราอยู่กับพระ เราไปปฏิบัติแล้วได้ของมาเหมือนคนร้อนวิชา คือพอเราได้มาปุ๊บก็คิดว่าคนอื่นน่าจะได้แบบเราก็พยายามบอก พยายามให้ พยายามยัดเยียด แล้วมันเยอะเกินไปแล้วเราไม่เก่งพอในการที่จะให้ เราก็เลยถูกมองว่าไม่ปกติ



แล้วมันทำให้พี่งานหด เพราระเรื่องนี้ด้วยไหม ?
โดโด้ : ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่มาก ส่วนที่หนักมากน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องกระแสสังคม เรื่องครอบครัวมากกว่า

เรื่องที่โดนกล่าวหาว่าเราทิ้งครอบครัวเก่า ?
โดโด้ : ตอนแรกรับไม่ได้นะ รู้สึกแย่ ไม่ดี แต่สุดท้ายก็เริ่มเข้าใจแฟนๆ ประชาชนที่เขารู้สึกแบบนั้น เพราะว่าเขาได้ข้อมูลแบบนั้นแล้วทำให้เขาเข้าใจแบบนั้น

จริงไหมที่พี่ไม่ได้เจอลูกเลยเป็น 10 ปี ?
โดโด้ : จริงๆ ครับก็พยายามแอบไปเจออยู่



ตอนนั้นที่พี่ออกมาจากครอบครัวลูกๆ อายุเท่าไหร่ ?
โดโด้ : คนโต 8 ขวบ คนกลาง 6 ขวบ คนเล็ก 5 ขวบ

แล้วที่ไม่ได้เจอเพราะอะไร เขาปิดกั้นเราหรือว่ามีปัญหาทะเลาะกัน ?
โดโด้ : เอาเป็นว่าไม่มีความพอดีในการเจอกัน รายละเอียดขอไม่ลงลึก แล้วต้องบอกนิดนึงว่าน้ำหวานเขามาตอนที่พี่ไม่ได้เจอแล้ว พี่ไปอยู่ป่าแล้ว



คลิปสัมภาษณ์ โดโด้ ยุทธพิชัย