หากเราย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2539 คงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวลูกครึ่งหน้าหวาน "ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง" นักร้องเสียงใสขวัญใจวัยละอ่อน ค่ายอาร์เอส เจ้าของบทเพลงแดนซ์ยอดฮิต "Sha La La La La" และเธอก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินในตำนานเทปล้านตลับอีกด้วย แต่ล่าสุด "ปุ๊กกี้" กลับกลายเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงบ้านเรา เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้นำกำลังร่วมกับตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดอะเทอเรส ซอยรามอินทรา 65 ถนนรามอินทรา เขตบางเขน หลังสืบสวนอย่างลับๆ จนแน่ชัดว่ามีการลักลอบนัดส่งยาเสพติดในหมู่บ้านดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่สายสืบเตรียมพร้อมเข้าตรวจค้นเพราะทราบว่ามีการนัดส่งยาเคตามีน จำนวน 5.2 กก. ก็ได้พบอดีตนักร้องชื่อดัง “ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง” ภายในบ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมของกลางยาเคตามีน และอุปกรณ์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมแฟนหนุ่มของ “ปุ๊กกี้” และ ชายชาวไต้หวัน ได้ 1 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังเร่งสอบสวนขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า การนัดส่งมอบยาเสพติด (เคตามีน) จำนวน 52 กก. ในครั้งนี้ มีเครือข่ายชาวไต้หวัน ซึ่งกำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อเจรจาซื้อยาเสพติด และจะลักลอบลำเลียงกลับไปยังประเทศไต้หวัน ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบ จึงได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าสืบสวนพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา
กระทั่งวันที่ (17 มิถุนายน 2562) เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ AITF ประกอบด้วย บก.ปส.3 บช.ปส. (นปส.สุวรรณภูมิ) ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนปราบปราม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย
MR.HUNG CHENG YI สัญชาติไต้หวัน อายุ 28 ปี (ผู้ต้องหาที่ 1) บุคคลในเครือข่าย (มีหน้าที่สั่งการและจัดการลำเลียงผ่านบริษัทพัสดุ) ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ ห้อง 318 ร.ร.Gold Airport suite 1288/9 ซ.แขวงลาดกระบัง เขต ลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลางคีตามีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 5,170 กรัม บรรจุอยู่ในถุงใส ซุกซ่อนอยู่ในที่เขี่ยบุหรี่จำนวน 39 ชิ้น ใส่กล่องกระดาษ โดยได้ทำการขยายผลเข้าจับกุมผู้ต้องหาคนที่ 2 ชื่อนายชลวิทย์ อายุ 49 ปี ซึ่งมีหน้าที่จัดหายาเสพติด และ ผลิตยาเสพติด
ผู้ต้องหาคนที่ 3 "น.ส.พริสซิลลา จิวเมลลี่" หรือ "ปุ๊กกี้" ข้อหามีหน้าที่จัดหายาเสพติด และร่วมกันผลิตยาเสพติด พร้อมของกลางยาเสพติดที่พบภายในบ้าน ประกอบด้วย ไอซ์ จำนวน 98.3 กรัม ยาบ้า 8 เม็ด ยาอี 10 เม็ด คีตามีน 4 กรัม กัญชาแห้ง 40 กรัม และสารเคมีหลายชนิด พร้อมกับอุปกรณ์ที่เชื่อว่าใช้ผลิตยาเสพติด และตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวน 9 รายการ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 18/118 หมู่บ้านเดอะเทอเรส ซอยรามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โดยผู้ต้องหาที่ 3 เป็นภรรยา ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งมีลูกด้วยกัน 1 คน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฯ อยู่ระหว่างสอบปากคำและจัดทำบันทึกจับกุม ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลาง ให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เปิดแฟ้มประวัติไม่ธรมดา "ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง"
"ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง" เป็นอดีตนักร้องดังยุค 90 ปัจจุบันอายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลียน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "พริสซิลลา จิวเมลลี่" เคยมีผลงานเพลงกับค่ายอาร์เอส โดยเริ่มผลงานแรกในวงการบันเทิงด้วยการแสดงมิวสิกซีรีส์ในอัลบั้มชุดแรกของ "ศรราม เทพพิทักษ์" ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2538 หลังจากนั้นช่วงกลางปี พ.ศ. 2538 ได้ร้องเพลงประกอบละครเรื่อง "เงาราหู" ทางช่อง 3 ในเพลง "คงมีสักวัน" ซึ่งถือเป็นผลงานเพลงแรกในฐานะนักร้อง
ช่วงต้นปี พ.ศ. 2539 ปุ๊กกี้ได้มีผลงานเพลงอัลบั้มแรกในชื่ออัลบั้ม Pookie อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จมียอดขายมากกว่าหนึ่งล้านตลับ และยังเป็นอัลบั้มที่มียอดจำหน่ายสูงสุดติดอันดับท็อป 5 ของประเทศไทยในปีนั้นอีกด้วย ในช่วงปลายปีดังกล่าวได้ร้องเพลง "พรุ่งนี้" ประกอบภาพยนตร์ "ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน" ซึ่งได้รับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลตุ๊กตาทองในปีนั้นอีกด้วย
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2540 "ปุ๊กกี้" ได้มีอัลบั้มพิเศษออกมา โดยเป็นการนำเพลงเก่า ทั้งเพลงไทยและเพลงสากลมาร้องใหม่ ในอัลบั้ม Wowderful! มีเพลงฮิตเช่น SHA-LA-LA-LA และอัลบั้มนี้ก็มียอดขายมากกว่าล้านตลับเช่นกัน ซึ่งเพลง SHA-LA-LA-LA ก็กลายเป็นเพลงประจำตัว จนหลายคนเรียกขานชื่อของเธอว่า ปุ๊กกี้ ชาลาล่า
"ปุ๊กกี้" จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ด้านความรัก สมรสครั้งแรกกับ "สุรพันธุ์ จำลองกุล" (ต๋อง) อดีตนักร้องวงทู ที่ตกเป็นข่าวฮือฮาในเรื่องที่อายุยังน้อยและกำลังมีชื่อเสียงในวงการเพลง อีกทั้งยังเป็นการไม่เห็นด้วยของมารดา โดยมีลูกด้วยกัน 2 คน โดยคนโตเป็นลูกสาว อีกคนเป็นลูกชาย แต่ต่อมาทั้งสองระหองระแหงจนถึงขั้นหย่าร้างกันเมื่อกลางปี 2547
และได้สมรสครั้งที่ 2 กับปาณสาร จันทร์หอม ได้ไปตั้งรกรากที่ประเทศออสเตรเลีย แต่แต่งงานได้ปีกว่าก็หย่าขาดกับสามี ล่าสุดย้ายกลับมาประเทศไทยทำธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงาม จนกระทั่งมีลูกกับกับสามีนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป และถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดต้องห้ามไว้ในความครอบครอง
