หวั่นสงครามอ่าวเปอร์เซียปะทุ หลังโจมตีเรือน้ำมัน 2 ลำ

2019-06-14 15:05:15

หวั่นสงครามอ่าวเปอร์เซียปะทุ หลังโจมตีเรือน้ำมัน 2 ลำ

Advertisement

สหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตือนว่า โลกไม่สามารถปล่อยให้เกิดการ “เผชิญหน้าครั้งใหญ่ในอ่าวเปอร์เซีย” ขณะที่ ความวิตกกังวลของนานาชาติ เพิ่มสูงขึ้น กรณีการโจมตีแบบน่ากังขา ต่อเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ โดยนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น บอกว่า เขาขอประณามอย่างรุนแรงการโจมตีใด ๆ ต่อเรือพลเรือน ความจริงต้องปรากฎและต้องมีผู้รับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้

รายงานการโจมตีในอ่าวโอมาน นอกชายฝั่งอิหร่าน ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งถูกไฟไหม้ และทั้ง 2 ลำยังลอยอยู่ได้ แต่ก็บีบให้ลูกเรือหลายสิบคน ละทิ้งเรือ เหตุการณ์ระเบิดเรือบรรทุกน้ำมัน เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในรอบ 1 เดือนใกล้ช่องแคบยุทธศาสตร์ฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันสายสำคัญของโลก และแม้ว่า รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ ไม่กี่ชั่วโมงหลังเตหะรานเรียกเหตุการณ์นี้ว่าน่าเคลือบแคลงสงสัย โดยระหว่างแถลงข่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซี. นายปอมเปโอ กล่าวว่า สหรัฐเชื่อว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลัง และต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ซึ่งการประเมินนี้ อยู่บนพื้นฐานข้อมูลข่าวกรอง, อาวุธที่ใช้, ระดับความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการ, ความคล้ายคลึงในการโจมตีของอิหร่านต่อเรือบรรทุกน้ำมันที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และความจริงก็คือว่า ไม่มีกลุ่มตัวแทนของอิหร่าน ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ และกลุ่มตัวแทนของอิหร่าน ก็ไม่ได้มีความช่ำชองและมีประสิทธิภาพในระดับสูง




แต่นายปอมเปโอ ก็ไม่ได้แสดงหลักฐานชัดเจน เพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของสหรัฐ และในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า กรอบเวลาของการเกิดเหตุ มันน่าสงสัยมาก เพราะเหตุระเบิดเกิดขึ้นประจวบเหมาะกับช่วงการประชุมกันระหว่างผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนอิหร่านเพื่อหวังคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน เป็นการเยือนอิหร่านของผู้นำญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 40 ปี

สหรัฐประณามอิหร่านในการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันครั้งก่อนหน้า โดยบอกว่า ทุ่นระเบิดใต้ทะเลที่ผลิตโดยอิหร่าน ถูกใช้ในการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกชายฝั่งเมืองท่าฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐบาลเตหะรานปฏิเสธข้อกล่าวหา ระบุ “ไร้สาระ” และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาระหว่างประเทศในอ่าวเปอร์เซีย เพื่อผ่อนคลายในสิ่งที่อิหร่าน เรียกว่า “สถานการณ์ความมั่นคงที่น่าเป็นห่วง” ในภูมิภาค



ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม สหรัฐได้ส่งทหารและเรือรบเข้าตะวันออกกลาง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน ที่ไม่ได้ระบุชัดเจน การประจำการกองทัพมีขึ้นหนึ่งปีหลังสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ทำร่วมกับนานาชาติ แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ จากนั้นสหรัฐก็กลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจต่ออิหร่านครั้งใหม่

นายซารีฟ กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นว่า การประชุมระดับภูมิภาคที่อิหร่านเสนอให้จัดขึ้นนั้น เป็นสิ่งจำเป็น ขณะเดียวกัน โฆษกของกองกำลังพันธมิตรอาหรับ ที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกำลังต่อสู้กับกบฏฮูตีในเยเมน เรียกการโจมตีที่น่าสงสัยครั้งนี้ว่า เป็นการขยายความขัดแย้งครั้งใหญ่ และว่าการโจมตีครั้งนี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย 2 ลำในทะเลแดง ในเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นฝีมือของกบฏฮูตี

กองกำลังพันธมิตรอาหรับ ที่นำโดยซาอุฯ กล่าวหาอิหร่านว่าให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธต่อกบฏฮูตีในเยเมน แต่เตหะรานปฏิเสธข้อกล่าวหา



ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ กบฏฮูตีตอบโต้การโจมตีอย่างหนักหน่วงรุนแรงของกองกำลังพันธมิตรชาติอาหรับ ต่อฐานที่มั่นในเยเมน ด้วยการยิงจรวดโจมตีซาอุฯ ซึ่งรวมทั้งการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมัน

อาเหม็ด อาโบล เกอิท เลขาธิการสันนิบาตชาติอาหรับ เรียกร้องให้เลขาธิการยูเอ็น รักษาความมั่นคงในอ่าวเปอร์เซีย โดยกล่าวต่อสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น 15 ชาติ ไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศใดว่า มีหลายฝ่ายในภูมิภาคกำลังพยายาม “สุมไฟ” ขึ้นในภูมิภาค และทุกฝ่ายต้องตระหนักรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ชี้ค ซาบาห์ คาเลด อัล-ซาบาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศคูเวต ซึ่งกล่าวในที่ประชุมเดียวกัน ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกวางระเบิดโจมตีนั้น เป็นการก่อวินาศกรรมที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเส้นทางการเดินเรือทางทะเล และยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านพลังงานของโลกด้วย ส่วนกาตาร์ก็เช่นเดียวกัน เรียกร้องให้นานาชาติร่วมกับสอบสวน และลดความตึงเครียด ซึ่งในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง กระทรวงต่างประเทศกาตาร์ ประณามสิ่งที่เรียกว่าเป็นการทำลายล้าง ไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ก็ตาม

ด้านไฮโก มาอัส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ซึ่งเยือนกรุงเตหะรานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย โดยบอกว่า แม้ว่าข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน แต่เหตุการณ์นี้ กำลังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างมาก

ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐก็เผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งระบุว่า เป็นภาพของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน กำลังปลดทุ่นระเบิดที่ไม่ทำงานออกจากด้านข้างเรือบรรทุกน้ำมัน ที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่สหรัฐยังได้แชร์ภาพของเรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิดก่อนถูกเก็บกู้ไป และเรือบรรทุกน้ำมันของนอร์เวย์ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน



สหรัฐกล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยทุ่นระเบิด ขณะที่อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหา

สำหรับเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำที่ถูกโจมตีครั้งล่าสุดนี้ คือเรือ “โกคุกะ คะเรจัส” ของญี่ปุ่น และเรือ “ฟรอนท์ อัลแตร์” ของนอร์เวย์