ชายชาวสุราษฎร์ธานี วัย 68 ปี ดีใจจนน้ำตาไหล หลังได้รับบัตรประชาชนเป็นครั้งแรกในชีวิต
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่พื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี นายสุชาติ สำเภา หรือลุงเฮียก ชายวัย 68 ปี มีฐานะยากจนหาผักขายประทังชีวิต อาศัยอยู่ในสวนยางพารา ดีใจทั้งน้ำตาหลังผู้นำท้องถิ่น และนายอำเภอคีรีรัฐนิคม ช่วยเหลือหาพยานหลักฐาน และพยานข้างเคียงให้ได้รับบัตรประชาชนใบแรกในชีวิต และกราบขอขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ
โดยนายชาญวิทย์ สิรภักดี นายอำเภอคีรีรัฐนิคม กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้มีเฟซบุ๊กมีการโพสต์ขอความว่า มีชายชราอาศัยในพื้นที่บ้านวังพลาย ต.ยานยาว อ.คีรีรัฐนิคม ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่มีบัตรประชาชนมาแต่กำเนิด ได้รับความเดือดร้อนในหลายๆเรื่อง เนื่องจากไม่มีเอกสารแสดงความเป็นคนไทย จากนั้นตนจึงได้ประสานกับปลัดฝ่ายทะเบียนจนทราบชื่อว่า ลุงเฮียก ซึ่งทางอำเภอได้สำรวจข้อมูลเมื่อปี พ.ศ.2558 ซึ่งทางกรมการปกครองได้ทำโครงการเฉลิมพระเกียรติให้กับคนที่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านและไม่มีบัตรประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับรัชกาลที่ 9
ทั้งนี้ในพื้นที่ของ อ.คีรีรัฐนิคมมีทั้งหมด 40 ราย ซึ่งนายเฮียกก็เป็น1ใน40 คน ที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากต้องตรวจสอบด้วยดีเอ็นเอ เมื่อนำคู่ตรวจของลุงเฮียกมาตรวจเป็นคู่ห่างไม่สามารถดำเนินการได้อีกทั้งพ่อและแม่ของลุงเฮียกได้เสียชีวิตหมดแล้วตั้งแต่ลุงเฮียกอายุ 6 ขวบ ซึ่งขัดกับหลักทางการแพทย์ไม่สามารถดำเนินการได้เมื่อได้เห็นในเฟซบุ๊กของจังหวัด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดให้รีบดำเนินการ ดังนั้นเมื่อใช้ดีเอ็นเอไม่ได้ก็ต้องใช้พยานบุคคลข้างเคียง หรือคนในหมู่บ้านที่มีอายุมากกว่า 70 ปี หลังจากนั้นก็ให้ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.ย่านยาว นัดประชุมชาวบ้านเพื่อทำประชาพิจารณ์ให้ความเห็นชอบ ซึ่งคิดว่าจะดำเนินการจัดทำบัตรประชาชนให้กับลุงเฮียกได้อย่างช้าไม่น่าจะเกินวันที่ 18 มิ.ย.นี้อย่างแน่นอน พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้ลุงเฮียกว่า นายสุชาติ สำเภา อยู่บ้านเลขที่ 1/3 หมู่ที่ 10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี และหลังจากได้บัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ก็จะได้รับสิทธิ์ต่างๆที่ภาครัฐได้ให้การช่วยเหลือเหมือนกับบุคคลทั่วไป
ด้านนายสุชาติ สำเภา อายุ 68 ปี กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับญาติห่างๆในสวนยางพารา ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร ลักษณะทรุดโทรม อาศัยอยู่เพียงลำพัง กับสุนัขอีก 3 ตัว ใช้ผ้าปูกับพื้นเพื่อทำที่นอน ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งที่สายไฟฟ้าเดินผ่านหน้าบ้าน อาศัยหาผักไปขายได้วันละ 100-200 บาท และบางวันมีรายได้บ้างไม่มีรายได้บ้าง แต่ก็ต้องต่อสู้ต่อไป และรู้สึกดีใจมากที่ทางผู้นำท้องถิ่นและนายอำเภอคีรีรัฐนิคมที่ช่วยในเรื่องการขอทำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นบัตรประชาชนใบแรกในชีวิตของตน โดยที่ผ่านมาไม่ทราบมาก่อนว่าบัตรประชาชนมีประโยชน์ใช้ทำอะไรได้บ้างถึงกับร้องไห้และซาบซึ้งในความกรุณาของผู้นำในพื้นที่ทั้งหมดที่ให้การช่วยเหลือการทำบัตรประชาชนในครั้งนี้