โดนจับตามองเรื่องมีทายาทมาตลอดสำหรับคู่ของ "จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา" และ "พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน" ยิ่งช่วงนี้ดูสาวจุ๋ยจะฟิตออกกำลังเป็นพิเศษเหมือนเตรียมความพร้อมให้ร่างกายแข็งแรง งานนี้พอเจอทั้งสองเลยสอบถามถึงแพลนการมีลูกว่าจะพร้อมกันเมื่อไหร่ โดยเจ้าตัวได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า
ช่วงนี้ดูออกกำลังกายกันหนักเลย ?
จุ๋ย : หนักนิดนึง หนักสำหรับจุ๋ยนะถ้าเทียบกับคนอื่นที่เขาออกกำลังกายอยู่แล้วก็คงไม่หนัก คือเราเพิ่งมาเริ่ม ตอนนี้เริ่มอึดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ตั้งใจอยากจะมีน้องก็เลยบำรุงเป็นพิเศษ มีการทานฮอร์โมน แล้วอาจจะเป็นคนที่ไวเลยทำให้น้ำหนักขึ้น ตัวบวม ประกอบกับละครยังไม่ปิดดีก็เลยถ้างั้นจุ๋ยขอหยุดการแพลนมีน้องลงไปก่อน ขอมาออกกำลังกายให้น้ำหนักลง ให้ตัวกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ก็เลยหยุดฮอร์โมน
เรียกว่าทุ่มเทเวลาให้กับการออกกำลังกาย ?
จุ๋ย : อยากจะไปวิ่งกับพี่ตูน ก็เลยมีการซ้อมวิ่งโดยเฉพาะ ถ้าเป็นการเทรนด์ ไปเอ็กเซอไซส์ต่างๆ ก็เพื่อให้ร่างกายเราแข็งแรงนั่นแหละ โยคะก็มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายเรายืด เหยียด ในวันที่เราแน่นๆ เรารู้สึกปวดหลัง ปวดขา เพราะเราทำงานหนัก ก็จะช่วยผ่อนคลายและลดความเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคต่างๆ ได้
ตะพักเบรกการมีน้องไปก่อนใช่ไหม ?
จุ๋ย : พักไว้ระยะนึงก่อน จริงๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ก็ปล่อยให้เป็นธรรมชาติไม่ถึงขนาดว่าจะต้องรีบมี ตอนนี้ละครจุ๋ยน่าจะเหลืออีก 3-4 เดือนก็ให้เสร็จก่อน คือตอนแรกจุ๋ยเข้าใจว่าจะปิดแล้ว ก็จะๆ อยู่อย่างนี้ สักพักก็กลายเป็นจะ 2 ปีแล้ว ตอนนี้ก็เร่งถ่ายกันเพราะจะออนแอร์ปีนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้น้ำหนักเราขึ้นมาเยอะขนาดไหน ?
จุ๋ย : ขึ้นมา 3-4 กิโลฯ ถามว่านอยด์ไหม ตอนนั้นเราก็รู้ว่าเราบำรุงเพื่ออะไร ก็ไม่ได้นอยด์มากขนาดนั้นแต่พอออกกล้อง หรือสามีทักนิดนึงว่าที่รักน้ำหนักเท่าไหร่แล้วช่วงนี้ (หัวเราะ) จุ๋ยก็อืมมมมมม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราหาวิธีอื่นดีกว่าในการบำรุงร่างกาย ก็ศึกษาเพิ่มขึ้น
พุฒ : คือเขาทานปกติ แต่ตอนนั้นอาจจะมีตัวบำรุงฮอร์โมนต่างๆ ทำให้น้ำหนักของเขาบวกเพิ่มขึ้นไปอีก พอมันถึงในจุดนึง วันนึงเขานั่งอยู่ข้างๆ ตอนที่เราขับรถ แล้วรู้สึกว่าไซส์มันเริ่มไม่เหมือนปกติ ก็แค่ถามเฉยๆ เขาเองก็เหมือนจะรู้ตัวอยู่เหมือนกันก็เลยหันมาออกกำลังกายซึ่งตอนนี้เขาออกกำลังกายหนักกว่าผมมาก เช้าโยคะ กลางวันฟิตเนส เย็นไปวิ่ง กลายเป็นเสพติดยิ่งกว่าผมอีก
จุ๋ย : จริงๆ เยอะไปก็ไม่ดีนะ
พุฒ : ตัวผมเองไม่ได้ต้องทานฮอร์โมนอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นพวกวิตามิน พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายแต่พอสมควร
กลับมาทานฮอร์โมนอีกจะมีปัญหาไหม ?
จุ๋ย : ถ้าเป็นผู้หญิงปกติที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ต้องทานก็มาง่าย มีช่วงนึงที่ร่างกายจุ๋ยผิดปกติ ฮอร์โมนมันตกทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ เลยไปปรึกษาคุณหมอ ก็เลยลองทานฮอร์โมนดู ก็กินโด๊สต่ำๆ แต่บางคนอาจจะไวเลยทำให้มีอาการบวมน้ำเกิดขึ้นได้ ของจุ๋ยมันก็เกิดในช่วงนั้น อาจจะตั้งใจเกินไป หรืออาจจะเป็นภาวะที่เดินทางต่างประเทศ มันก็ประกอบกันหลายๆ อย่าง ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง ตอนนี้เราก็พยายามลดความเครียด คาดหวังน้อยลง ทำงาน มีความสุขกับการออกกำลังกาย คือยิ่งไม่ได้ออกกำลังกายจุ๋ยยิ่งเครียด มันเหมือนเรากังวลว่าเราจะสุขภาพไม่ดีไหม ร่างกายไม่แข็งแรง รวมถึงอ้วนแล้วเดี๋ยวเราต้องถ่ายละครอีกอมันยังมีความกังวลอยู่ในใจ จุ๋ยเลยเอาตรงนี้มาทำให้ตัวเองสมดุล ทำให้เป็นปกติของเรา
หมอบอกว่าต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ?
จุ๋ย : ตอนนั้นหมอให้ทาน 1-2 เดือน เพื่อดูร่างกายของเรา พอปรับแล้วร่างกายก็สมบูรณ์ดีนะ แต่ว่าสมบูรณ์เกินไป (หัวเราะ) คืออ้วนเกินไปนิดนึง ซึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงหรือทำงานที่ต้องออกหน้ากล้องคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเราอยู่หน้ากล้อง แล้วหน้าเราบวม แค่ 3-4 กิโลฯ มันก็บวมขึ้นมาหลายเท่าแล้ว
ตั้งใจจะลดยังไงบ้าง ?
จุ๋ย : น้ำหนักไม่ได้กังวลแต่กังวลสัดส่วน รูปร่างมากกว่า ก่อนหน้านี้ไปกองก็มีคนทักว่านี่ท้องแล้วใช่ไหม (หัวเราะ) นึกออกป่ะ ว่ามันรู้สึกเจ็บนะ ก็บอกไปว่ายังไม่ได้ท้องแต่ว่าบวมขึ้นมาเท่านั้นเอง
ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีน้องภายในปีนี้ใช่ไหม ?
จุ๋ย : ไม่ค่ะ ตอนนี้แล้วแต่เขาเลยว่าจะมาช่วงไหน เขาน่าจะมาในช่วงที่เป็นเวลาที่ดีที่สุด จุ๋ยเชื่อว่าอย่างนั้น ก็ภาวนาอยู่ ตอนนี้เลิกถืออะไรไปหมดแล้วเพราะว่ามันไม่ทันแล้ว
พุฒ : ตอนนี้ไม่ได้ดูอะไรทั้งนั้นแล้ว ชิลล์ๆ เลยครับ ธรรมชาติล้วนๆ ให้เขาได้ปิดละครด้วยจะได้สบายใจ ช่วงนี้เราก็ทำงานแน่นมากๆ ก็ให้มันผ่านช่วงนี้ไปก่อนเพราะเรามีซ้อมวิ่งกันด้วย เราจะไปวิ่งกับพี่ตูน สิ้นเดือนมีไปแข่งวิ่ง 100 กิโลฯ อีก คงต้องเป็นหลังจากนั้น ก็ค่อยว่ากันอีกที
กลายเป็นพุฒทำงานหนักแทนหลังจากนี้ ?
จุ๋ย : คือพุฒเขาจะหนักมาก ช่วงนี้ละคร 3 เรื่อง รายการ 3 รายการ ตอนนี้ก็เหมือนมาช่วยดูสลับคิวให้
เลิกมูเตลูแล้วใช่ไหม ?
จุ๋ย : ก็ยังมูอยู่นะ (หัวเราะ) แต่เป็นภาวนาในใจ
ช่วงไข่ตกยังต้องงดงานอยู่ไหม ?
พุฒ : (หัวเราะ) ไม่ถึงขนาดนั้น
จุ๋ย : ก็คิดอยู่ว่าจะทำอย่างนั้นแต่สุดท้ายทำไม่ได้ เพราะค่าบ้านมันแพง เลยบอกที่รักเดินออกไปทำงานดีกว่า
ถ้าถ่ายละครจบก็จะกลับมาเดินหน้าปั๊มน้องใหม่ใช่ไหม ?
จุ๋ย : เราน่าจะสบายใจที่ความรับผิดชอบที่เราจะต้องรับผิดชอบมันไม่มีแล้ว ไม่ต้องไปเป็นภาระให้กับกองละคร ทุกคนไม่ต้องมาหยุดรอเราถ้าเราท้องขึ้นมา เราเองก็จะได้เล่นเต็มที่ด้วย เพราะหลายๆ คนก็บอกว่าถ้าท้องเขาก็ไม่กล้าตบ ไม่กล้าผลัก ทีมงานก็คงจะต้องคอยอุ้ม มันก็เหมือนเป็นปฏิกิริยามาว่าถ้าเราท้องเขาจะต้องดูแล แต่เราไม่ท้องเขาก็ทำงานกันตามปกติ รีบเร่งถ่าย ตอนนี้บทก็เริ่มมาแล้ว
วันเกิดจุ๋ยมีอะไรพิเศษไหม ?
พุฒ : แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะครับ มีความสุขมากๆ นะครับ
จุ๋ย : นี่คือพิเศษที่สุดแล้ว
พุฒ : เซอร์ไพรส์จะมาบอกอะไรกันตรงนี้
จุ๋ย : คือนัดกันว่าจะไปตักบาตร จริงๆ พุฒมีงาน วันเกิดเราก็พยายามจะขอว่าไม่รับงานในวันเกิดของแต่ละคนได้ไหม แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ เพราะเขาต้องการคิวพุฒมาก ก็เลยให้ไปทำงาน แต่เราก็ตื่นเช้าหน่อยเพื่อไปตักบาตรด้วยกัน ส่วนของขวัญ พอแต่งงานแล้วก็เลิกเซอร์ไพรส์แล้วไง ไม่อยากได้อะไร คือเราคิดไม่ออก เดี๋ยวจุ๋ยคิดได้แล้วจะบอกเอง คือมันเป็นแนวนี้ไปแล้ว
พุฒ : เขามีบอกมาแล้วว่าอยากได้อะไรแต่ไม่รู้จะใช่ของที่เขาอยากได้จริงๆ หรือเปล่า คือเขาขอวันไหนในทุกๆ โอกาสเราก็จะให้หมด
