“ศรีสุวรรณ” บุกร้อง กกต.เรียกพรรคอนาคตใหม่สอบกรณีกล่าวหามีคนติดต่อขอซื้อ “งูเห่า” ชี้หากพูดเท็จแค่หวังสร้างกระแสมีโทษถึงยุบพรรค
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ มีคนติดต่อมาเพื่อขอซื้อตัวให้เป็นงูเห่าโดยเสนอผลประโยชน์หรือทุ่มซื้อตัวสูงถึง 120 ล้านบาทต่อคนนั้น หากเป็นความจริง จะถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างรุนแรงหลายฉบับหลายมาตรา ทั้งกฎหมายอาญา ม.149 และกฎหมายพรรคการเมือง ม.28 ม.29 ม.44 ม.46 ม.88 วรรคสอง ถือได้ว่าเป็นกระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ บุคคลของพรรคการเมืองใดกระทำเช่นนั้น จะเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญได้ อีกทั้งกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการซื้องูเง่าว่ามีจริง จะต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่มาติดต่อขอซื้อตัวโดยเร็ว ว่าเป็นใคร มาจากพรรคการเมืองใด เพื่อลบข้อครหาว่าเป็นแกะ หรือแสร้งแถลงข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาเท่านั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า หากพรรคอนาคตใหม่ไม่ดำเนินการทางกฎหมายและไม่แจ้ง กกต. ให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน ตามอำนาจหน้าที่ ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง และอาจมีโทษถึงขั้นที่ กกต.เพื่อพิจารณามีคําสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น พ้นจากตําแหน่งทั้งคณะ และโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 5 ปีด้วย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงมาร้องเรียนต่อ กกต. ให้เรียก โฆษกพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.และก่อนหน้านั้นว่าถูกซื้อตัว มาให้ข้อเท็จจริงต่อ กกต. เพื่อเอาผิดบุคลหรือพรรคการเมืองที่กระทำการดังกล่าว แต่หากสอบแล้วไม่มีมูลความจริง จะต้องเอาผิดผู้ที่กล่าวอ้างดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป หากพรรคอนาคตใหม่ไม่มีหลักฐานใดๆ ก็ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเอง