ปล่อยผ่านดราม่า “มิน” เคลียร์ชัด เดินพรมแดงเมืองคานส์ ไม่ได้จ่ายเงินเอง !!

2019-06-06 16:45:57

ปล่อยผ่านดราม่า “มิน” เคลียร์ชัด เดินพรมแดงเมืองคานส์ ไม่ได้จ่ายเงินเอง !!

Advertisement

เต็มที่ในฐานะนักแสดง “มิน พีชญา” เคลียร์ชัด โดนเกรียนโซเชียลตั้งฉายา “นางเอกพรมแดงกำมะลอ” โต้ดราม่าจ่ายเงินไปคานส์ พร้อมเผยถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีก... 

ไปร่วมเดินเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้อย่างสวยงามสำหรับนางเอกสาว “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ในฐานะนักแสดงร่วมทุนกับประเทศจีน ที่ครั้งนี้ต่างมีเสียงชื่นชมเข้ามาเป็นจำนวนมากถึงความสวยสง่าของเจ้าตัว แต่เมื่อมีเสียงชื่นชมแล้ว ก็ย่อมมีเสียงด้านลบออกมาเป็นธรรมดา

เมื่อมีบรรดาขาเกรียนโซเชียลบางกลุ่มต่างขุดเรื่องราวว่าสาวมิน ไปในฐานะอะไร เพราะภาพยนตร์ที่เจ้าตัวเล่นไม่ได้เขาชิงในงานดังกล่าว งานนี้พอได้เจอสาวมินเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า…




ไปเดินพรมแดงคานส์มาเป็นยังไงบ้าง ? 

“ดีค่ะ ตื่นเต้นและสนุกมากๆ หลายคนบอกเซอร์ไพรส์ที่เห็นเราไปเดิน ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บอกใครเหมือนกัน การเตรียมตัวไม่นาน ส่วนเรื่องชุดก็ไปฟิตติ้งหน้างานเลย วันสุดท้ายก่อนไปยังถ่ายละครอยู่เลย ถ่ายเสร็จก็ไปขึ้นเครื่อง ชุดทั้งหมดมีทีมงานช่วยเลือกให้ ว้าวเหมือนกันเพราะทุกแบรนด์ที่ใส่เหมือนให้เกียรติเรามากๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกแต่ได้รับการตอบรับจากแต่ละแบรนด์เป็นอย่างดีค่ะ”

ฟีดแบคที่พรมแดงเป็นยังไงบ้าง ? 

“สนุกมากๆ เราไปครั้งแรกก็มองเป็นโอกาสดีๆ ที่เราตัดสินใจที่จะทำ ถามว่าตอนเดินมีเกร็ง เกร็งจนเลิกเกร็งไปเลยค่ะ วันแรกตื่นเต้นมากๆ ก่อนไปถึงงานต้องต่อแถวยาวเพื่อขึ้นรถลีมูซีน ตื่นเต้นจน พอเดินจริงๆ ก็เริ่มหายไปบ้างแล้ว แต่ว่าก็ทำเต็มที่ เราเป็นคนไทยก็อยากให้คนไทยได้เห็นอะไรที่ได้ภูมิใจ” 






ปีนี้เซเลบจากเมืองไทยไปเดินกันเยอะ เราได้เจอใครบ้าง ? 

“เจอค่ะ เจอพี่ “ปู ไปรยา” กอดกันเลย ดีใจมากเพราะไม่ได้เจอกันนานแล้วค่ะ ส่วนพี่ “ชมพู่ อารยา” ก็มีจังหวะได้เจอกันแว๊บเดียวค่ะ ส่วนตัวรู้สึกอุ่นใจเวลาเจอพี่ๆ เพื่อนๆ คนไทย คือเวลาไปอยู่ต่างประเทศการได้เจอคนไทยได้กินอาหารไทยมันเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดแล้ว”

แต่ก็มีดราม่าในการไปเดินพรมแดงคานส์ครั้งนี้เหมือนกัน ?

“จริงๆ เห็นดราม่าไม่มากเพราะพอเสร็จงานนึงก็ต้องเดินต่ออีกงานนึง แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะรวมๆ แล้วดีค่ะ”

มีดราม่าว่าหนังจีนร่วมทุนเรื่องที่เราแสดง ไม่ได้มีรายชื่อฉายที่เมืองคานส์ แล้วไปเดินในฐานะอะไร ? 

“เอเจนซี่ที่เขาดูแลหนังจีนของเราก็มีการติดต่อมา ตอนแรกก็มีการทบทวนว่ายังไงดี แต่พอเราตัดสินใจที่จะทำ ก็ต้องทำให้ได้ดีเพราะตอนแรกเราก็กังวลนิดนึง ด้วยความที่รู้สึกว่าหนังยังตัดไม่เสร็จเลย แต่ในเมื่อผู้ใหญ่พูดแล้ว เราเป็นเด็กและเป็นนักแสดงก็ต้องเต็มที่ค่ะ”






ผู้ใหญ่ตั้งใจให้เรานำหนังไปโปรโมตใช่มั้ย ? 

“ใช่ค่ะ เพราะเขาก็มีแพลนอยากให้เล่นเรื่องต่อๆ ไป ทั้งเอเจนซี่ และค่ายหนัง อันนี้ก็ไปเหมือนอยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น”

มีคนใช้คำต่อว่าเราถึงขั้นว่าเป็น “นางเอกพรมแดงกำมะลอ” เรารู้สึกว่าแรงไปมั้ย ? 

“ไม่มีหรอกค่ะ (ยิ้ม)”

บางคนก็เมาท์ว่าออกเงินไปเอง ? 

“จริงๆ ก็คือทางหนังออกให้ค่ะ”




คนมองแบบนี้เราว่ามันแรงไปมั้ย ? 

“มินว่า สำหรับมินไม่ได้คิดอะไร และมินรู้สึกว่ามินได้รับหน้าที่ให้ทำอะไรมินก็ทำตรงนั้น นั้นคือหน้าที่ของมิน ที่เหลือมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าก็ขอบคุณทุกกำลังใจ เพราะรู้สึกว่า 95 เปอร์เซ็นมันดี และเรามีกำลังใจค่ะ”

ถ้าปีหน้าได้ไปอีก จะเป็นการบั่นทอนจิตใจเรามั้ย ? 

“ถ้ามีโอกาสก็ดีใจค่ะ คิดว่าเราก็ต้องทำการบ้านให้ดีขึ้น สำหรับมินก็รอโอกาสอย่างเดียวเลยค่ะ”

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ชมเมื่อไหร่ ? 

“น่าจะประมาณสิงหาคม ในประเทศจีนนะคะ ไม่มีในไทย”






แบบนี้เราต้องเดินทางไปโปรโมตที่จีน ? 

“ใช่ค่ะ”

จะต่อยอดงานที่จีนได้มากขึ้นมั้ย ? 

“ก็ฟีดแบคดีนะคะ หลังจากเสร็จงานคานส์ ทางประเทศจีนก็แฮปปี้ เอเจนซีก็แฮปปี้ มีที่คุยกันไว้ก็คือ มีภาพยนตร์ อีก 2 เรื่อง แต่ที่กำลังจะเปิดกับทางช่องก็มีอีกเรื่องนึงค่ะ ที่เหลือก็ให้เป็นไปตามโอกาสและเวลาที่เหมาะสม สำหรับมิน มินก็ดีใจและเป็นเกียรติมาก”

แต่เรายังไม่ได้ล็อกคิวสำหรับหนังสองเรื่องที่ติดต่อมาใช่มั้ย ? 

“คือ ยังเป็นการพูดคุยกันเบื้องต้นค่ะ เพราะถ้าไปก็อาจจะใช้ระยะเวลาเป็นหลักเดือนเหมือนกัน”




ตารางจะกระทบกับงานในไทยมั้ย ? 

“จริงๆ มันก็สามารถจัดได้ค่ะ แต่ว่าต้องดูทางผู้จัดการ”

เราพร้อมโกอินเตอร์แล้ว ? 

“ค่ะ เราสนุก พระเอกก็น่ารัก”

หลายคนชมเรากับพระเอกจีนเคมีน่ารัก ? 

“จริงๆ มินตื่นเต้น แต่เขาไม่ตื่นเต้น เขาบอกก่อนลงจากรถค่ะ “just be who you are” ก็เดินแบบตัวเอง ไม่ต้องพยายามเป็นแบบใครดีที่สุดแล้ว”

มินหวังกับงานที่จีนอย่างไรบ้าง ? 

“จริงๆ ก็เป็นเรื่องของทีมค่ะ ว่าทีมวางไว้ยังไงอะไรที่เหมาะกับเราเราก็พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองและเติบโตอยู่แล้วค่ะ จริงๆ มินรักประเทศไทย แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่โอกาสค่ะ กลับมาก็กินส้มตำปลาร้าเลย (หัวเราะ)” 







ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @minpechaya