ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ลงดาบ “ทักษิณ” จำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา คดีหวยบนดิน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เข้าเป็นคู่ความแทน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กรณีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยบนดิน ตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2546-พฤศจิกายน 2549
ทั้งนี้ศาลตัดสินจำคุก นายทักษิณ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ออกหมายจับจำเลยมาบังคับคดีตามคำพิพากษา ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ไม่ชอบด้วยกฎหมายเหตุเร่งรีบดำเนินการ แม้รู้ว่าผิด พรบ.สลากกินแบ่งฯ แต่ไม่มีการแก้ไข และไม่มีแผนรองรับความเสี่ยง ทำให้ขาดทุนถึง 1.6 พันล้านบาท
คดีนี้นับเป็นคดีที่ 2 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาตัดสินจำคุกนายทักษิณในปี 2562 ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยตามกฎหมายใหม่
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาให้จำคุกนายทักษิณเป็นเวลา 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 กรณีอนุมัติให้กู้ยืมเงินเพิ่มเติมแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ประมาณ 1,000 ล้านบาท ผ่าน Exim Bank ในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าทุน นอกเหนือจากกรอบเจรจาปฏิญญาพุกาม เพื่อประโยชน์แก่ บริษัทชิน แซทเทิลไลท์ ที่ตนเองและครอบครัวถือหุ้น ซึ่งให้ออกหมายจับจำเลยมาบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ต่อไป
ขณะที่คดีหวยบนดินนั้น ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้องจำเลยรวมทั้งสิ้น 47 ราย โดยก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯ เคยมีคำพิพากษาจำคุกในส่วนของกลุ่มคณะรัฐมนตรี 3 ราย ส่วนจำเลยอื่นใน ครม.นั้น ศาลพิพากษายกฟ้อง ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว