กรมอนามัยประกาศลูกน้ำหรือตัวโม่ง “ยุงลาย” ถือเป็นเหตุรำคาญ ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลดการระบาด หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยแนวทางการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขจากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกที่รุนแรงในขณะนี้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องป้องกันเฝ้าระวังอย่างเข้มแข็งและพร้อมเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะหรือเศษวัสดุที่มีน้ำขัง
โดยผลทางกฎหมายที่กำหนดให้แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าพนักงานสาธารณสุขและผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เฝ้าระวังโรคและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ หากพบว่าอาคารหรือสถานที่ใดของเอกชนมีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานสาธารณสุข หรือผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น แจ้งหรือแนะนำให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งนั้นปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาตามสมควร
อย่างไรก็ตามหากเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำภายในกำหนดเวลา ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งเป็นหนังสือตามมาตรา 28 ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารนั้น ปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาตามสมควร หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามมาตรา 74 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ทุกคนสามารถทำได้ด้วยการกำจัดเศษขยะและคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น พลาสติก ยางรถยนต์เก่า เศษกระถาง เปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะที่กักเก็บน้ำทุกสัปดาห์ เช่น แจกัน กระถางต้นไม้ เพื่อทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของยุง รวมถึงใช้ทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำยุง และใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูในจานรองขาตู้กับข้าว เพื่อตัดวงจรการเจริญเติบโตของยุง เพื่อลดการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในครอบครัว