โลกต้องจำ !! “ไหมไทยปักธงชัย” สู่ "พรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2019"

2019-05-20 12:10:21

โลกต้องจำ !! “ไหมไทยปักธงชัย” สู่ "พรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2019"

Advertisement

ถือเป็นอีก 3 คนดังในวงการบันเทิงที่ปีนี้ได้โอกาสไปร่วมเดินพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 72 สำหรับ "โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม" และ "ซาร่า เล็กจ์" และ "หมู-อาซาว่า พลพัฒน์ อัศวะประภา" ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์และตัวแทนของแบรนด์ “ไพเพอร์ ไฮด์ซีค” (Piper Heidsieck) โดยในปีนี้ได้จับมือกับ ASAVA สร้างสรรค์ผลงานดีไซน์ขวดแชมเปญ รุ่น LIMITED EDITION และชุด RED CARPET อีกด้วย



โดย "พลพัฒน์ อัศวะประภา" เผยว่า การมาเยือนเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการได้รับเกียรติให้ร่วมออกแบบขวดและกล่องแชมเปญให้กับทาง Piper Heidsieck ซึ่งนับเป็นเกียรติและความภูมิใจอย่างสูงในฐานะดีไซเนอร์ไทย เพราะที่ผ่านมาจะมีแต่นักออกแบบชื่อดังระดับโลกอย่าง คริสเตียน ลูบูแตง, ฌอง ปอล โกลติเย่ร์ เป็นต้นที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์แชมเปญระดับโลก จากงานออกแบบขวดแชมเปญ Piper Heidsieck นำมาสู่การออกแบบชุด RED CARPET ให้ โยเกิร์ต และ ซาร่า ได้สวมใส่เดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์






“คานส์” เป็นเมืองชายทะเลของประเทศฝรั่งเศส ภาพที่เห็นในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ที่ตนตั้งใจสร้างสรรค์ร่วมกับสองสาวตัวแทนของ ไพเพอร์ ไฮด์ซีค จึงเป็นลุคที่เรียกว่า Casual Glam คือเป็นลุคที่ดูสดใส เบาสบาย ASAVA ออกแบบชุดให้มีความเป็นรีสอร์ท เลาจน์ (Resort Lounge) ที่มาพร้อมกับสีสันสดใสจับคู่สีที่ตัดกัน สำหรับชุดของ "โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม" โดดเด่นด้วย “กระโปรงผ้าไหมลายดอกสีเหลืองสด” จากอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ใส่ดีเทลในการจับจีบขึ้นโครงสร้างกระโปรงให้ดูโดดเด่น จับคู่กับเสื้อท่อนบนทรงชุดว่ายน้ำสีดำคอวีผ่าลึกเผยความร่าเริงสดใสแห่งแสงแดดและชายหาด





ส่วน "ซาร่า" มาในชุดราตรีแบบใส่สบายๆ ในลุคเท่ๆ ใช้ผ้าสีสันสดใสตัดกันระหว่างสีส้มและสีชมพู ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ASAVA ออกแบบให้มวลของเดรสมีขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้การเดินพรมแดง ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นวัฒนธรรมของคานส์ฟิล์มเฟสติวัลอยู่ โดยชุดของทั้ง 2 สาวใช้ผ้าไทยในการตัดเย็บถึง 80% และตลอดการเดินทางกับทริปพิเศษแห่งปี 2019 กับ Piper Heidsieck นักแสดงทั้ง 2 ท่านจะสวมใส่ชุดจาก ASAVA และ ASV รวม 18 ชุด”





ผ้าไหมปักธงชัย เป็นงานหัตถกรรมที่ขึ้นหน้าขึ้นตา และมีชื่อเสียงเป็นที่ติดปากของผู้คนทั่วไปของชาวโคราชอีกประเภทหนึ่ง คือ ผ้าไหมปักธงชัย ผ้าไหมปักธงชัย ได้ชื่อว่า เป็นผ้าไหมที่มีคุณภาพดี กล่าวคือ เนื้อผ้าหนาแน่น สีคงทน ไม่ตก เมื่อนำมาซักเนื้อผ้าไม่ยุบเมื่อนำมา นุ่งเนื้อผ้าไม่ย้วย คุณภาพของผ้าได้มาตรฐาน มีปริมาณการผลิตมากพอจนสามารถส่งไปจำหน่ายต่างประเทศได้



วัสดุที่ใช้สำหรับทอผ้า ส่วนมากใช้เส้นใยไหม ที่ทอด้วยเส้นใยฝ้ายมีไม่มากนัก ชาวปักธงชัยปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ทำเส้นใยขึ้นใช้สำหรับทอผ้าได้อย่างครบวงจร ผ้าที่ทอมักเป็นผ้าพื้น ๒ ตะกอ มีทั้งผ้าเนื้อหนา เนื้อบาง และผ้าเนื้อหยาบ ผ้าหมี่ ผ้าหางกระรอก ผ้าโสร่ง ฯลฯ สำหรับเส้นใยผ้าฝ้าย ใช้ทอผ้าขาวม้า ผ้าเหยียบ ฯลฯ สีที่ใช้ย้อม ใช้สีเคมี มีการนำเส้นใยฝ้ายโทเร เข้ามาใช้สำหรับทอด้วยเพราะเส้นใยฝ้ายไม่พอเพียง





กรรมวิธีการทอผ้า เริ่มด้วยการคัดเลือกเส้นใยสำหรับเส้นพุ่งและเส้นยืน การฟอกย้อม การค้นหูก การสืบหูก การเก็บ ตะกอ ฯลฯ เครื่องมือที่ใช้ได้มีการพัฒนาให้ทันสมัย สามารถฟอก ย้อม ได้ครั้งละมาก ๆ การค้นหูก ค้นได้ครั้งละร้อยกว่าเมตรการสืบหูก การเก็บตะกอ ล้วนได้รับการพัฒนาให้สามารถทำได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะนำหูกขึ้นกี่



กี่ทอผ้า ส่วนมากเป็นกี่กระตุก ซึ่งทอผ้าได้เร็วกว่าการทอด้วยมือ ชาวบ้านได้รับการฝึกฝนให้ทอผ้า ด้วยกี่กระตุกได้เป็นอย่างดี กี่กระตุกเป็นกี่ที่เหมาะกับการทอผ้าพื้น





การประยุกต์ใช้ ผ้าไหมพื้นเป็นผ้าที่นำมาใช้ประโยชน์ได้สูง สามารถนำมาตัดเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มทั้งหญิงและชาย ได้อย่างสวยงาม ถ้าต้องการทำให้มีลายบนเนื้อผ้า อาจนำไปพิมพ์ ปักหรือฉลุ ใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น ทำผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน กระเป๋า แฟ้มเอกสาร ฯลฯ พวงกุญแจผ้าเนื้อหนา อาจนำมาทำผ้าห่ม ผ้าม่าน บุเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ