“จุรินทร์” เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ขอบริหารจัดการภายในพรรคก่อน กำหนดท่าทีทางการเมือง
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากเข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่พรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับแนวทางการเมืองของพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด เพราะเพิ่งมีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย พรรคจะต้องแจ้งไปยังนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อแจ้งผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ให้ กกต. ได้รับทราบ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ ก็จะต้องรอหนังสือตอบรับจากนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อน ซึ่งตรงนั้นจะเป็นการนับหนึ่งอย่างเป็นทางการในการทำหน้าที่ของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วน กกต. จะใช้เวลาในการพิจารณาเท่าใดนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องรอ กกต. เป็นผู้ดำเนินการ แต่คิดว่าน่าจะทันการเปิดสภาฯ ยังมีเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการคุยกันนอกรอบก่อนหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มต้นคงเป็นการเตรียมการเรื่องการบริหารจัดการภายในพรรคก่อน ด้วยการตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ ขึ้นมา 2 ด้าน โดยตนมีความตั้งใจมุ่งเน้นการบริหารจัดการในเรื่องการบริหารงานของพรรค และการบริหารจัดการทางการเมืองควบคู่กันไป ดังนั้นก็ต้องเตรียมจัดทัพใน 2 ส่วนตรงนี้ก่อน
นายจุรินทร์ กล่าวถึงการวางแนวทางการทำงานให้ ส.ส.ใหม่ว่า ขณะนี้กำลังจะหารือกับเลขาธิการพรรค ในการจัดพบปะในระหว่าง ส.ส. ของพรรค และเจ้าหน้าที่พรรค พร้อมทั้งส่วนอื่นๆ ที่เหมาะสมสักครั้งหนึ่ง โดยอาจเป็นการประชุมสัมมนากันเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร การบริหารจัดการรูปแบบใหม่ภายในพรรครวมถึงเรื่องอื่นๆ โดยจะให้เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการต่อไปว่าจะเป็นที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่
“แนวทางของพรรคทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรคอยู่แล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับการประชุมสภาฯก็จะมีที่ประชุม ส.ส.ของพรรคเป็นกลไกสำคัญในการพิจารณาตัดสิน ดังนั้นทางพรรคจะประชุมร่วมระหว่าง ส.ส. กับกรรมการบริหารพรรค เป็นตัวตัดสินทิศทางทางการเมืองของพรรค ส่วนที่ประชุม ส.ส. ของพรรคจะเป็นที่พิจารณาทิศทางการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคซึ่งมีการแยกกันชัดเจน”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ได้เชิญแคนดิเดทผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก 3 คนมาร่วมงาน อย่างนายอภิรักษ์ ก็ยินดีที่จะมาเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร โดยวานนี้ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งไปแล้ว สำหรับนายพีระพันธุ์ กับนายกรณ์ นั้นตนมีความมั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือ และกำลังดูว่าจะช่วยงานพรรคในส่วนไหนที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค และเดินหน้าต่อไป