“อนุทิน” ชี้การเมืองไทยดุเดือดมาก แบ่งเป็นฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายปราธิปไตย ยอมรับว่า อยู่ตรงกลางรู้สึกกดดันมาก ย้ำนโยบายกัญชาเสรีต้องเดินหน้า ฝากรัฐนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชา เสนอขยายเวลาแจ้งครอบครองออกไปอีก
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รองหัวหน้าพรรค นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรค นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ดร.นาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และคณะ ส.ส.ของพรรคทั้งหมด เข้ารายงานตัวที่อาคารรัฐสภา
นายอนุทิน กล่าวระหว่างการรายงานตัวในประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาติดตามสถานการณ์มาตลอด แต่ยังไม่เคยคุยกับใครเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล สำหรับกรณีที่โพสต์เรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน คือทางที่ตนเลือกเดินนั้น เป็นการโพสต์ตามหลักการ และที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามาโพสต์คำว่าประชาชนทีหลัง เนื่องจากส่วนตัว มองว่าชาติ คือประชาชนอยู่แล้ว แต่เมื่อมีผู้ทักมา ก็พิมพ์เติมเข้าไปเพื่อสร้างความสบายใจ แต่ย้ำว่าไม่ลืมพี่น้องแน่นอน เพราะล่าสุด เราส่งให้สมาชิกพรรคลงไปถามประชาชนในพื้นที่แล้วว่าอยากให้พรรคเคลื่อนไหวอย่างไร และเราจะนำเสียงตรงนั้นมาคุยกันในที่ประชุมพรรคในวันที่ 20 พ.ค. เพื่อกำหนดแนวทางเบื้องต้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การเมืองไทยดุเดือดมาก แบ่งเป็นฝ่ายเผด็จการ กับฝ่ายปราธิปไตย ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้ง เป็นคนของประชาชนกันหมด ยอมรับว่า คนตรงกลางรู้สึกกดดันมาก จำเป็นต้องฟังเสียงประชาช่วยตัดสิน เป็นเหตุให้เราต้องลงพื้นที่ดังที่กล่าวมาข้างต้น และต้องคุยกับ ส.ส.ทั้ง 51 คน ขอยืนยันว่า เรายังยึด 4 แนวทาง ในการร่วมรัฐบาล ทั้งการปกป้องสถาบัน เคารพประชาชน ไม่สร้างความขัดแย้ง พาชาติเดินหน้า เป็นเจตนารมย์ที่ต้องรับได้ ส่วนเรื่องการต่อรองกระทรวง เราไม่เคยต่อรองกระทรวงกับใคร ไม่รู้ใครให้ข่าวมา เพราะเรายังไม่คุยกับใคร ความเชื่องช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องไปสอบถามกับผู้จัดการในเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคขั้วที่ 3 เตรียมจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่คิดเรื่องนั้น และไม่อยากให้มาถึงสำหรับนโยบายกัญชาเสรี เรายืนยันว่าต้องเดินหน้า ถ้ามีโอกาส เราจะทำอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับนโยบายอื่นที่ได้หาเสียงไว้ ตอนนี้ เราเสนอกฎหมายได้ เราจะเข้าไปปรับปรุงให้ทันสมัยมากที่สุด มีเรื่องที่อยากฝากให้รัฐไปคิดคือการนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชา จะสิ้นสุดในวันที่ 21 พ.ค. ส่วนตัวเสนอให้ขยายเวลาเพิ่มออกไปอีก แล้วให้รัฐบาลชุดหน้ามาคิดต่อว่าจะจัดการเรื่องกัญชาอย่างไรต่อไป ให้มันเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย”