ควงกันไปเที่ยวประเทศรัสเซียด้วยกันสำหรับ สาว "ฐิสา วริฏฐิสา" กับหนุ่ม "ปั้นจั่น ปรมะ" พร้อมเดอะแก๊งแบบสนุกสนานสานความสัมพันธ์กันได้อย่างสวยงาม จนแฟนๆ ต่างลุ้นว่าทั้งคู่ได้ตกลงเป็นแฟนกันหรือยัง ล่าสุด เจอเจ้าตัวในงานแถลงข่าวเปิดตัว พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เลยขออัพเดตสถานะหัวใจได้ความว่า
ถามถึงรูปที่เราเข้าไปคอมเมนต์กลับเหมือนมีดราม่า ?
อย่างที่เราบอกตั้งแต่ตอนแรก มันก็จะมีทั้งสองเสียงแหละเนอะ ฝั่งที่เชียร์และไม่เชียร์เราก็เข้าใจ ส่วนที่เราตอบไปก็คือเราไม่ได้คิดอะไร แค่อยากจะบอกเขาว่าเรายังค่อยๆ ดูอยู่ ที่ผ่านมาเราก็เป็นคนดูแลตัวเองอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ กันก่อน ไม่ต้องห่วงเราขนาดนั้น ที่เราตัดสินใจตอบคอมเมนต์จริงๆ มันก็มีหลายคอมเมนต์ ในใจเราก็คือส่วนหนึ่งอยากจะอธิบาย ในส่วนที่เราอธิบายได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องไหนปล่อยได้ก็จะปล่อยไป
เราใส่หมวกใบเดียวกันไหม ?
มันเป็นหมวกของหนูค่ะ
แต่เขายืมไปใส่ถ่ายรูป ?
ใช่ค่ะ ยืมใส่ถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรค่ะ
กดดันไหมเวลามีคนมาเชียร์เยอะๆ เหมือนมีคนมาละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเราไหม ?
เรารู้สึกว่าตัวเราอยากจะใช้ชีวิตให้มันปกติที่สุด สบายๆ เราก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะหลบๆ ซ่อนๆ คือตัวเรารู้อยู่แล้วว่าทำอะไรอยู่ สิ่งที่เราทำอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่บางทีเราก็รู้สึกว่าไม่อยากกดดันการใช้ชีวิตตัวเองเกินไป เราก็ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ
ยืมหมวกกันแบบนี้ หลายคนมองว่าความสัมพันธ์คงมากแล้ว ?
ไม่นะคะ มันแค่ถ่ายรูปเฉยๆ คือโดยส่วนตัวเราถ้าใครมาขอยืมอุปกรณ์ถ่ายรูป เราก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว
คนมาคอนเมนต์เยอะทำให้เรากดดันเรื่องวางตัวไหม ?
ถ้าโดยส่วนตัวเราก็อย่างที่บอกไปว่าอยากใช้ชีวิตปกติ สบายมากที่สุด แต่เราก็เข้าใจสิ่งที่คนข้างนอกมองเข้ามา เราก็ไม่อยากทำให้มันดูไม่โอเคทั้งตัวเราเองและพี่เขา ไม่อยากให้ใครมาว่าตัวเราได้ พี่เขาได้ แต่อย่างที่บอกไป ณ เวลานี้เราก็พยายามดูแลในเรื่องต่างๆ ให้มันออกมาดีที่สุดด้วย
รู้สึกไหมว่าเขาพยายามมาอยู่ในส่วนหนึ่งชีวิตเรา ?
หรอคะ (หัวเราะ) ก็ยังค่อยๆ คุยกันไปค่ะ บางคนก็คิดกันไปต่างๆ นานาว่ามันไปถึงไหนยังไงแล้ว แต่เราก็ออกมาบอกชัดเจนตลอดว่าเพิ่งคุยกันอยู่
ช่วงนี้ดูไปเที่ยวกันบ่อย ?
ไม่บ่อยนะคะ
เราเปิดใจให้เขาบ้างหรือยัง ?
ก็ยังค่อยๆ ดูไปก่อน เราไม่รู้ว่าแต่ละคนมีระยะเวลาในการคุยกันแค่ไหน สำหรับตัวเราเรารู้สึกว่าอยากใช้เวลาให้นานที่สุด ให้แน่ใจที่สุด แต่บางทีเรารู้สึกว่าการไปกินข้าว หรือไปเที่ยวด้วยกันคุณคือสถานะนี้แล้ว ต้องเป็นความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว บางทีอาจจะแค่ทำความรู้จักกันก่อน บางทีถ้าเราไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย จะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนยังไง
เขาก็ยังเป็นเพื่อนใช่ไหม ?
ก็ยังเป็นพี่อยู่ เป็นพี่เป็นน้องกัน
ถ้าให้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย พี่เขามีอะไรมากกว่า ?
ทุกคนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ก็ค่อยๆ ดูไปค่ะ
ที่ไปรัสเซียเขาช่วยเราถือกระเป๋าช่วยถ่ายรูปให้ด้วย ?
เขาก็ช่วยทุกคนเท่าที่ช่วยได้นะคะ อย่างที่บอกไปว่าตอนแรกเป็นทริปที่มีพี่ต๊ะที่เป็นผู้ชายคนเดียว นอกนั้นก็เป็นสาวๆ กันหมด ซึ่งสาวๆ ก็ต้องมีพร็อพเยอะอยู่แล้ว พี่เขาไปก็เลยได้ไปช่วยอีกคนหนึ่ง
เขาดูแลเราเป็นพิเศษไหม ?
ไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่นเลยค่ะ จะบอกว่าทริปนี้ไม่ใช่เป็นทริปที่ไปดูแลกันเลย มันค่อนข้างลุยมากกว่า เราไปกันเอง แล้วก็ไม่ได้แพลนอะไรล่วงหน้าขนาดนั้น บางทีไปหาเอาข้างหน้า มันก็เลยอาจจะวุ่นวายนิดหน่อย
หลายคนถามหารูปคู่เรา ?
ก็คงต้องมีขอถ่ายแหละเนอะ
แฟนๆ จะได้เห็นบ้างไหม ?
คงยังไม่ได้เห็น
ถ้าพี่เขาลงเราโอเคไหม ?
ไม่โอเคค่ะ คือโดยส่วนตัวในมุมหนึ่งเราก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น แต่ว่ามันก็คงเป็นเรื่องปกติที่เขาอยากขอถ่ายรูปด้วยกับเรา แต่ถ้าลงก็อาจจะมีคนมองในหลายๆทาง ซึ่งเราก็ไม่อยากให้คนคิดก้าวกระโดดขนาดนั้น อย่างที่บอกไปว่ามันมีทั้งสองเสียง เราไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดกันเอง เราก็เลยรู้สึกว่าให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า
คือเราไม่อยากให้คนคิดไปเองใช่ไหม ?
ด้วยค่ะ แล้วเราก็รู้สึกว่าทุกครั้งที่เราออกมาตอบเราก็ชัดเจน ถึงบอกว่าใจเย็นๆ กันก่อน
คนเชียร์คู่เราเยอะ มีแฮชแทคขึ้นมาด้วย ?
ขอบคุณค่ะ ส่วนแฮชแทคยังไม่เคยเห็น
คนเชียร์เยอะแบบนี้มีผลต่อจิตใจไหม ?
ไม่หรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราและตัวพี่เขา สุดท้ายแล้วเราก็ต้องตัดสินใจกันเอง ถามว่ามีระยะเวลาไหม ไม่ได้กำหนดระยะเวลาเลย ก็ค่อยคุยไปเรื่อยๆดีกว่า คือด้วยความที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แล้วเวลาก็เพิ่งสั้นๆ กันเอง
ทุกวันนี้คุยกันบ่อยขึ้นไหม ?
ก็เรื่อยๆ ค่ะ ส่วนมากก็จะคุยกันเรื่องงานเขาไลน์มา
มีโอกาสไปเที่ยวไหนต่อด้วยกันไหม ?
ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลยค่ะ ตอนนี้กลับมาทำงานต่อ
ถ้าเขาจ้างออกงานคู่เราพร้อมออกไหม ?
ทำงาน ทำได้ค่ะ ไม่ได้มีปัญหา แต่เรื่องทำงานติดต่อคุณแม่อีกทีนึง เพราะคุณแม่ดูแล