“ธนาธร” ยก 3 เหตุผลหยุดยั้งอำนาจ คสช.

2019-05-14 13:15:55

“ธนาธร” ยก 3 เหตุผลหยุดยั้งอำนาจ คสช.

Advertisement

“ธนาธร” ยก 3 เหตุผลหยุดยั้งอำนาจ คสช. เปิดความเสียหายในรอบ 3 เดือน พร้อมทวงถามพรรคการเมืองหนุน คสช.ตอบประชาชนต้องการสังคมแบบนี้จริงหรือ

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวในประเด็น “3 เหตุผลที่ควรหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช.” พร้อมทวงถามจุดยืนของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคที่สืบทอดอำนาจ คสช. ทั้งที่มีนโยบายขัดกับที่หาเสียงไว้กับประชาชนหรือไม่  โดยประการแรก นายธนาธรเปิดเผยข้อมูลการใช้ภาษีของประชาชนอย่างมหาศาลเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนที่ใกล้ชิด คสช. เช่น กรณีของการบินไทย ผลักดันให้การบินไทยมีแผนเช่าซื้อเครื่องบิน 38 ลำ มูลค่ากว่า 150,000 ล้านบาท ในสภาวะที่การบินไทยขาดทุนสะสมมาอย่างยาวนาน มีหนี้สินสะสมแล้วกว่า 150,000 ล้านบาท รวมถึงกรณีการใช้มาตรา 44 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลสามารถคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล และยืดการชำระหนี้ของกลุ่มทุนโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 ราย การทำสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน  รวมถึงกรณีสัมปทานรถไฟ 3 สนามบิน 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า  ประการที่สอง  หลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่นาน ได้มีการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดตั้งและเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับที่มีผลบั่นทอนการกระจายอำนาจ เช่น การให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอมีอำนาจเรียกชี้แจง แนะนำ ตักเตือน สั่งเพิกถอนการกระทำ หรือให้ผู้บริหารท้องถิ่นหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ได้ การทำลายความเป็นอิสระของท้องถิ่น ด้วยการกำหนดให้การบริการสาธารณะและการเบิกจ่ายงบประมาณต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย และการลดความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น การกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีอายุขั้นต่ำ 35 ปี ลดสมาชิกสภา อบต.เหลือหมู่บ้านละ 1 คน  การยกเลิกตำแหน่ง ส.ข.  และผู้บริหาร อปท.รูปแบบพิเศษไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งที้ผ่านมา ทุกพรรคการเมืองต่างพูดเรื่องการกระจายอำนาจและการลดอำนาจราชการรวมศูนย์ แต่ที่น่าสังเกตคือทุกวันนี้พรรคการเมืองที่พูดเรื่องเหล่านี้หลายพรรค กลับจะไปร่วมรัฐบาลกับกลุ่มคนที่ออกนโยบายผลักดันการรวมศูนย์อำนาจ ตนจึงต้องทวงถามไปที่พรรคการเมืองเหล่านี้ว่าตกลงแล้วพวกคุณสนับสนุนการกระจายอำนาจจริงหรือไม่

นายธนาธร กล่าวว่า ประการที่สาม  เร็วๆ นี้ได้มีการออกกฎหมายอีก 2 ฉบับ ที่มีผลลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน คือ พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ และการแก้ไข พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ โดยมีเนื้อหาที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถเจาะระบบเข้าดูข้อมูลของประชาชนได้ หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งการตีความคำว่าภัยความมั่นคง เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถตีความได้อย่างแทบจะอิสระ

นายธนาธร กล่าวด้วยว่า การกระทำของรัฐบาล คสช. 3 ประการที่ตนได้กล่าวถึงไปนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงธาตุแท้ของ คสช. เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง  สิ่งที่ตนอยากฝากให้ทุกคนช่วยจับตามองเป็นพิเศษ ก็คือกรณีของสัญญาสัมปทานที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนหลายตัว อาจจะมีการเซ็นสัญญาก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเร็วๆนี้ ตนขอให้ทุกคนช่วยกันจับตามองความเคลื่อนไหวเหล่านี้ด้วย จากกรณีที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ได้สะท้อนธาตุแท้และตัวตนของ คสช.และรัฐบาลซึ่งกำลังจะจัดตั้งรัฐบาลกันในนามของพรรคพลังประชารัฐ ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้ออกนโยบายส่งผลเสียหายต่อชาติบ้านเมืองการนำภาษีของประชาชนไปเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพวกพ้อง การรวบอำนาจเข้าสู่รัฐราชการรวมศูนย์ และการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งตนขอทวงถามไปถึงพรรคการเมืองต่างๆที่กำลังจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่านี่คืออนาคตของประเทศที่พวกคุณต้องการใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคอนาคตใหม่หากไม่มีอำนาจในฐานะรัฐบาล จะผลักดันแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้หรือไม่ นายธนาธรตอบว่าในฐานะผู้แทนราษฎรในสภาฯ เราผลักดันวาระต่างๆด้วยกลไกช่องทางต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถาม การใช้ช่องทางของกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งนี่คือสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่จะทำต่อไปในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้ สิ่งที่ตนต้องการเน้นย้ำเป็นพิเศษ ไม่ใช่การทวงถามไปถึงพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นตัวผู้แทนราษฎรทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน ว่าด้วยเหตุผลเหล่านี้ พวกคุณจะยืนยันปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ และพวกคุณจะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.ที่ทำเรื่องเหล่านี้จริงๆหรือไม่ ให้ช่วยตอบพี่น้องประชาชนด้วย