สาปส่งคนเจ้าชู้ "เฌอเบลล์" เล่าความช้ำรักครั้งเก่า-แฟนคลับเหยียบซ้ำหน้าเกือบพังเพราะศัลยกรรมทำพิษ (มีคลิป)

2019-05-13 18:35:01

สาปส่งคนเจ้าชู้ "เฌอเบลล์" เล่าความช้ำรักครั้งเก่า-แฟนคลับเหยียบซ้ำหน้าเกือบพังเพราะศัลยกรรมทำพิษ (มีคลิป)

Advertisement

ไม่โกรธแล้วนะคะ แค่ไม่อยากสุงสิงใดๆ อีกต่อไป ... "เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน" ย้อนรอยบทเรียนสุดช้ำคบคนเจ้าชู้ โดยกระหน่ำเรื่องทำหน้าหาว่าโกหก ...



เป็นเพราะหน้านิ่งๆ ก็เลยทำให้หลายคนมองว่านางเอกสาว "เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน" เป็นคนเหวี่ยงวีน แถมยังมีสไตล์การตอบคอมเมนต์แฟนๆ แบบตรงสุดๆ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าสาวเฌอเบลล์เป็นคนแรงๆ แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตจริงๆ ของสาวเฌอเบลล์เป็นคนตลก ไม่ได้เหวี่ยงอย่างที่หลายคนเข้าใจ




ล่าสุด สาวเฌอเบลล์มาเปิดใจถึงเรื่องต่างๆ ผ่านทางรายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร





อยู่วงการบันเทิง มานานกี่ปีแล้ว ?
ประมาณ 8 ปีค่ะ

ตั้งแต่เข้าวงการมา โดนกระแสในเรื่องของความแรงค่อนข้างเยอะ ?
หนูว่าน่าจะมาจากคนที่ได้ฟังเราพูดมากกว่า เพราะคนไทยมันจะต้องมี ค่ะลงท้าย แต่ไม่ใช่ว่าหนูไม่มีเลยนะ คือบางทีในการเล่าเรื่องอ่ะค่ะ อาจจะด้วยอินเนอร์ ด้วยอะไรต่างๆ บวกกับว่าน้ำเสียงของเรา อยู่ภาคใต้มาก่อน น้ำเสียงเราอาจจะฟังดูห้าวหรือห้วนไป พอมาฟังคนกรุงเทพพูดก็จะเนิบๆ แล้วด้วยความที่มันไม่ใช่ความเคยชินของเรา เลยพูดยากนิดนึงค่ะ





มีข่าวว่าเราหน้าเหวี่ยง ?
ใช่ค่ะ หนูว่าอาจจะเป็นเพราะหน้าตาด้วย ที่ทำให้มีข่าวว่าหนูเป็นคนแรง คือด้วยความที่หน้าเฉยๆก็ดูดุอยู่แล้ว แล้วเวลาเราคุยหรือเล่าเรื่องอะไร เลยทำให้ดูแรงเข้าไปอีก

แล้วตัวจริงๆ ของเฌอเบลล์ เป็นแบบไหน ?
จริงๆ เป็นคนตลกค่ะ หนูจะเป็นคนฮา แล้วก็จะมองโลกในแง่บวก คือถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดจาหวานหรืออะไร แต่ก็สามารถให้ทำเรื่องบางเรื่องมันดูตลกได้ บางทีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องเครียดๆ เราก็สามารถ พาไปเรื่องฮาๆ ได้





เบื่อไหมกับข่าวที่เราเจอใน 8 ปีที่ผ่านมา ?
เรียกว่าเริ่มเป็นความเคยชินมากกว่าค่ะ คือยังไงเขาก็มองเราเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เราจะไม่สามารถไปห้ามความคิดเขาได้ สำหรับเราก็แค่ไม่เก็บมาคิดในใจก็พอแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเราก็ใช้ชีวิตลำบาก แล้วคนที่เป็นทุกข์ก็คือเรา เพราะฉะนั้นก็เขี่ยทิ้งไป ปล่อยมันไปค่ะ

แล้วข่าวที่คนพูดถึง เรื่องศัลยกรรม เป็นยังไง ?
หน้าหนูคงเหมือนแหละหนูว่านะ หนูเคยให้สัมภาษณ์เรื่องจมูก มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนเข้าวงการแรกๆ มีการฉีดฟิลเลอร์ แล้วมันก็มีผลกระทบอาจจะด้วยว่าเป็นของปลอม ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วทีนี้มันก็เกิดการไหล ทำให้จมูกดูผิดรูปไป แล้วประกอบกับว่าหนูก็ได้ไปฉีดตัวสลายฟิลเลอร์ แล้วมันก็ไม่ได้ผล มันเลยทำให้ยิ่งบวมกว่าเดิม ที่นี้เลยกลายเป็นสิงโต เลยทำให้มีข่าวอยู่ช่วงหนึ่ง หนูก็ได้มีการอธิบายผ่านสื่อไปแล้วนะคะ แต่เขาก็ว่าหนูโกหก ไปทำมาใส่ซิลิโคน นู่นนี่นั่นเยอะแยะเลย





แล้วตอนแรกทำไมถึงคิดไปฉีดฟิลเลอร์ ?
พอดีว่าคนดูแลของหนูคนเก่า เขาจับหนูฉีด เพราะว่าหนูมีปัญหานิดเดียวที่จมูกอะไรแบบนี้ เขาล็อคตัวหนูบนเตียงเลยนะ แล้วไม่ได้มีการประคบใดๆเลย อยู่ดีๆก็เสียบเข้ามาเลย หนูก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ต้องนิ่งอย่างเดียว แต่ตอนแรกหนูก็ได้มีการปฏิเสธไปแล้วนะว่าไม่ทำ เขาก็หลอกล่อหนูจนได้ แต่หนูก็ไม่ได้มีการฟ้องเป็นเรื่องราวอะไรใหญ่โต ตอนหลังก็เลยแยกทางกันไป

จริงๆ แล้วทั้งร่างกาย มีการทำศัลยกรรมอะไรมาบ้าง ?
ที่ทำมีอย่างเดียวก็คือ ล่าสุดหนูเพิ่งทำหน้าอกมาค่ะ เป็นการแก้เพราะว่าจริงๆหนูมีอยู่แล้วนะ แต่ว่าที่ทำเพราะว่า มันห่าง แล้วเราใส่ตัวปีกนกไม่ไหว มันใส่ทุกวัน แล้วลองคิดดูว่าถ่ายละครแล้วเหงื่อออก มันจะหลุด เพราะมันเป็นกาว เราก็ต้องดึงมาแปะ ดึงแปะอยู่เรื่อยๆ จนเนื้อหนูแตก คันแล้วแสบมากๆเลยเวลาอาบน้ำ มันก็เลยจำเป็นต้องทำค่ะ

ทำมาขนาดเท่าไหร่ ?
ของหนู 250 cc ค่ะ แต่หนูว่ามันใหญ่ไปนะคะ คือเวลาถามถ้าหนูจะลดลงไปอีก หนูก็ต้องเพิ่มเงินอีกนะ คือที่เราไปทำเขาจะมีขนาดมาตรฐานของเขาอยู่แล้ว ต้องเพิ่มอีกเท่าตัวเลยค่ะ หนูก็เลยเอาแบบที่ไม่ต้องเพิ่มเงินแล้วดีกว่าค่ะ



ย้อนกลับไปตอนที่คบกับแฟนคนเก่า ทำไมถึงตัดสินใจเปิดตัวเลย ?
อันแรกเลย หนูคิดว่าเราโตพอแล้ว แล้วมันก็มาถึงจุดๆนึงที่เราคิดว่า มันไม่ควรจะปิดบังแล้ว คือแบบมันควรจะใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะว่าการเป็นนักแสดงเนี่ย เราก็ไม่ได้มีชีวิตเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ครึ่งหนึ่งในชีวิตเรามันจะต้องมีหน้าที่บางอย่างที่ต้องทำ มันไม่สามารถเป็นตัวเองได้ 100% เพราะฉะนั้นในเรื่องของความรัก บางทีเราก็รู้ว่ามันจะต้องโดนติดตาม โดนจับผิด เราก็เลยเปิดไปเลยดีกว่า เราเองจะได้ไม่ต้องไม่สบายใจด้วย ไม่ต้องโกหกใคร แล้วหนูก็คิดว่ามันเป็นการให้เกียรติคนที่เราคุยอยู่ด้วย ทุกคนคงไม่มีใครอยากอยู่ในที่ซ่อน หรือต้องแอบแบบเป็นใครก็ไม่รู้ เวลาไปที่ไหนก็ต้องบอกว่าเป็นเพื่อนอะไรแบบนี้ มองในมุมกลับกันถ้าเราเป็นเขาเราก็รู้สึกแย่นะ

ตัวเราชัดเจน แต่คนที่คบด้วย ไม่ค่อยชัดเจนจริงไหม ?
ตอนนั้นเราคบกันเกือบ 2 ปีค่ะ จริงๆความสุขที่เราคิดว่ามันมีความสุข เกิดจากที่เราคิดว่าช่างมันเถอะ ไม่ใส่ใจ หรือไม่ลงรายละเอียด แล้วเอามาเป็นประเด็นในชีวิตคู่ ซึ่งหลังๆมาเราก็เจอ เรื่องที่เราไม่ชอบค่อนข้างบ่อย แล้วเราก็พยายามคิดในหลายๆแง่มุม คือเราไม่ได้แต่งงาน เพราะฉะนั้นมันก็ยังเป็นสิทธิ์ของเขา ถ้ามันไม่รุนแรงจนเกินไปก็คงไม่เป็นไร



แต่มันก็มีความรุนแรง ถึงขนาดมีคนมาก่อกวนชีวิตเรา ?
ใช่ค่ะ จะมีแบบส่งข้อความ ส่งรูป ที่ฝ่ายผู้หญิงเป็นคนแอบถ่ายไว้ มาให้เราดู แล้วก็มีแบบประโยคหยาบคาย เราก็เอามาเกริ่นๆกับคนของเรานะ แต่เขาก็ได้ปฏิเสธแทบทุกครั้ง แล้วพอได้คำตอบที่มันเป็นคำโกหกเราก็ยิ่งรู้สึกแย่ แล้วมันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าเขายอมรับตรงๆเราก็อาจจะคุยกันว่าจะแก้ไขยังไง หรือเราจะจบกันแค่นี้ แต่เราก็เคยคุยแบบนี้กันนะ แต่เขาก็บอกว่าไม่อยากจบกับเรา ไม่ยอมมาได้เรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้ว เรารู้สึกว่าไม่ไหว ก็เลยพอดีกว่า

โดนจับได้ว่าเขามีอะไรกับเพื่อนเรา จริงไหม ?
ก็ไม่ถึงชิดขนาดนั้นค่ะ แต่ก็คิดว่ามันคนใกล้ตัวเราจนเกินไป หลายๆครั้งที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็ไม่ได้อะไร แต่ที่มันสุดๆ แล้วจริงๆ คือเราคิดว่าเราให้โอกาสเขาเยอะแล้ว เราพยายามพูดคุยกัน แล้วเขาไม่เคยหยุด เขาไม่เคยฟัง เขาไม่เคยพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น เราให้โอกาสเขาเยอะแล้ว แล้วเวลาพูดบ่อยๆ เราก็เริ่มเบื่อที่จะพูด คือมันไม่ใช่เด็กแล้วนะ



ความรู้สึกเราเจ็บหนักขนาดไหน ?
เสียความรู้สึกมากกว่าค่ะ หนูว่าผู้หญิงทุกคนเวลารักใครสักคนแล้วให้โอกาส มันเจ็บตรงที่ว่า คุณไม่ดึงโอกาสนั้นไว้ แล้วเราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนๆ หนึ่งที่เราสามารถเลือกได้ แล้วเรากลับเลือกคุณซ้ำๆ อ่ะ แต่คุณไม่รักษามันไว้เลย มันเลยเจ็บตรงที่ว่า เขาไม่เห็นค่าของเรา ในความรักที่เรามีให้เขา

ตอนนี้ยังไม่อโหสิกรรมให้เขา และขอไม่เจอกันอีก จริงไหม ?
คือไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรนะคะ ยังสามารถร่วมงานกันได้ แต่หนูไม่ขอเสวนาอะไรกับเขาทั้งสิ้น แค่รู้สึกว่า มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน หรืออะไรทั้งสิ้น แล้วมันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรในชีวิตหนูด้วย แล้วเราก็รู้สึกว่าความคิดของเขาอะไรแบบนี้ มันก็ไม่โอเคค่ะ



ยังไม่เข็ดเรื่องความรัก ล่าสุดมีหนุ่มใหม่นอกวงการแล้ว จริงหรือเปล่า ?
เป็นหนุ่มสมุยค่ะ เพื่อนแนะนำให้เจอกัน ตอนแรกที่เจอกันหนูไม่ได้คิดอะไรนะ ยังคิดอยู่เลยว่าเขาเป็นเกย์ด้วยซ้ำ แล้วเวลาเขาพูดเขาก็จะมีจริตบางอย่าง แต่ตอนนี้เราพิสูจน์มาแล้วนะคะว่าไม่ได้เป็นแน่นอน

เพราะอะไรทำไมวันนี้ เราถึงกล้าเปิดตัวอีกครั้ง ?
คือในชีวิตเราเราก็เจอมาหลายๆ รูปแบบแล้ว แล้วเรายังไม่เคยเจอในรูปแบบของคนนี้ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่าเขาเหมือนเราตรงที่ว่า เขาเป็นคนจริงใจมาก แล้วเขาเป็นคนไม่มีโปรโมชั่น ซึ่งเราก็เป็นคนไม่ชอบโปรโมชั่นอยู่แล้ว แล้วก็เหมือนกับว่าคนใต้จริงๆ จะรู้จักคำว่าใจกันจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ก็คุยกันประมาณ 6-7 เดือนค่ะ ต่างคนก็ต่างทำงาน มีการคุยถึงเรื่องอนาคตบ้างเล็กน้อยค่ะ



คลิปสัมภาษณ์ เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน