อยากจบด้วยสันติ "ปู" เปิดใจดราม่าธุรกิจอาหารเสริมแตก

2019-05-10 19:10:01

อยากจบด้วยสันติ "ปู" เปิดใจดราม่าธุรกิจอาหารเสริมแตก

Advertisement

ออกมาเปิดใจแล้วสำหรับนางเอกสาว "ปู-ไปรยา สวนดอกไม้" หลังเกิดเรื่องราวดราม่าเกี่ยวกับธุรกิจที่เจ้าตัวเข้าร่วมทำกับดีเจต้นหอมและดีเจมะตูม จนกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ล่าสุดสาวปูได้มาร่วมงานแถลงข่าววิ่งการกุศล “2 พันล้านกิโลเมตรเพื่อผู้ลี้ภัย” ณ ห้อง เธียเตอร์ ชั้น 1 ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ (UNCC) เลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า







สื่อต่างประเทศยกให้เราเป็น แองเจลิน่า เมืองไทย

ก็ขอบคุณมากค่ะ จริงๆเป็นการทำงานที่ปูเริ่มจากอาสาตั้งแต่ต้น แล้วทำตั้งแต่ตอนแรกเลย ที่เห็นข่าวเรือชาวโรฮิงญาข้ามมาประเทศไทย มันเป็นภาพที่รู้สึกสงสารเขามาก 5 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ มันเป็นการทำงานที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า อย่างที่บอกมนุษย์ทุกคนไม่ได้เพอร์เฟค แต่การที่เราได้มีชีวิตอุทิศให้กับคนอื่น อย่างน้อยมันก็สร้างคุณค่าให้กับตัวเองค่ะ จริงๆปูเชื่อว่าคนไทยเป็นคนที่มีความเมตตาสูงอยู่แล้ว แล้วก็สนับสนุน UNHCR อยู่แล้ว ก็อยากจะเชิญชวนเขามาวิ่งค่ะ วันที่ 16 มิถุนายนนะคะ เป็นงาน 2 พันล้านกิโลเมตร เพื่อผู้ลี้ภัย ก็อยากจะเชิญชวนทุกคนจริงๆค่ะ เจอกันนะคะ





ถามถึงความคืบหน้าคดีอาหารเสริม?

จริงๆปูกับทางทนายจะแบ่ง 2 หน้าที่กัน เหตุผลที่ปูให้ทนายมาแถลงข่าวในวันนั้น คือปูก็พูดชี้แจงในเฟซบุ๊กแล้วรอบหนึ่ง ว่าปูจะไม่พูดด้วยตนเอง ปูไม่อยากจะพาดพิงหรือกระทบถึงฝ่ายไหน เพราะว่าปูรู้สึกว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่สื่อตรงนี้ เพื่อจะพูดถึงใคร แต่ว่าปูมีหน้าที่อยู่หน้ากล้อง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด แล้วทนายปูก็จะจัดการสัญญา ดูแลรายละเอียด จัดการดีลทั้งหลาย รวมถึงจัดการเรื่องนี้ด้วย แต่ในใจปูก็หวังว่า เราจะหาทางออกที่จบโดยสันติวิธีได้ ในใจปูอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ





แต่ท่าทีการให้สัมภาษณ์อีกฝ่าย ค่อนข้างจะไม่พอใจเราอยู่พอสมควร?
จริงๆ ปูมีเวลา 2 อาทิตย์ครึ่ง ในช่วงที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย ก็ได้ไตร่ตรองแล้วก็พิจารณาหลายๆอย่าง ก็รู้สึกว่าใจปูรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ก็คือต้องการให้ทุกฝ่ายจบอย่างแฟร์ แล้วก็สันติวิธี สำหรับปู ปูไม่มีทัศนคติอื่น แล้วปูก็มีแต่ความหวังว่าเราสามารถหาทางออกที่แฟร์กับทุกฝ่ายได้





เรายังคิดว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ใช่ไหม?
ใจปูพร้อมที่จะพูดคุยกับทนาย และทนายปูกับทนายเขาทุกเมื่อนะคะ



ไม่มีการคุยนอกรอบแล้วใช่ไหม?
ก็คือปล่อยให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายแล้วกัน





ศาลนัดครั้งแรกเมื่อไหร่?
ถ้าพูดตามความเป็นจริง ปูปล่อยหน้าที่นี้เป็นเรื่องของทนาย ปูยังไม่ทราบวันที่เลยค่ะ



เรามอบอำนาจให้ทนายความทุกอย่างใช่ไหม?
ถูกต้องค่ะ เพราะการทำงานของเราจะได้ไม่แทรกแซงกัน ปูเป็นคนที่อยู่หน้ากล้อง ทนายเป็นคนปกป้องปู ในทุกสัญญาที่ปูทำ ปูมีข้อจำกัดที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าปูค่อนข้างซีเรียสกับคำพูดในสัญญา เพราะอันนี้คือสิ่งที่ปกป้องตัวตนของเรา แล้วก็ชี้แจงในการทำงานของเรา เคสนี้ ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปูก็จะให้เป็นหน้าที่ของทนายจัดการ ปูก็ทำหน้าที่การทำงานของปูต่อไป





เรามีกังวลอะไรไหม?
จริงๆเมื่อก่อนปูเป็นคนที่คิดอะไร และใช้อะไรด้วยอารมณ์ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ปูเข้าใจทุกฝ่าย แล้ว 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้อ่าน ได้ฟังบทสัมภาษณ์ของทุกฝ่าย ตอนนี้ไม่ได้มีอารมณ์อะไรเลย อยากให้หนทางที่ออกมาไม่มีผลกระทบที่เสียหายกับทุกฝ่าย เพราะว่าการที่ปูพูดออกมา แล้วทำให้ฝ่ายไหนมีการกระทบกระเทือน หรือมีคนออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเขา ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตปูมีความสุข



จริงๆจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันเกิดจากสัญญา หรือความคิดที่ไม่ตรงกันของทั้งสองฝ่าย?
ปูว่าจริงๆแล้วปูเป็นคนที่เข้มงวดเรื่องสัญญา เพราะลูกค้าที่เราทำงานด้วยก็จะเข้มงวดเรื่องสัญญา การทำงานของเรา ในสโคปของงานมันมาด้วยคำพูดในสัญญา ว่าเราต้องทำตามกิจกรรมของสัญญา เลยบอกว่าปูไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจุดเริ่มต้น หรือปัญหาเริ่มจากอะไร เพราะวันนั้นทนายแถลงข่าวไปหมดแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดด้วย เพราะหนึ่งเราไม่เหมาะสมที่จะพูด เพราะปูไม่สามารถชี้แจงอย่างชัดเจนได้เท่าทนายค่ะ



ทนายความบอกว่ามีผลกระทบกับงานของปูพอสมควรเหมือนกัน?
ปูว่าเขาพูดด้วยความเป็นห่วง แต่ถ้าพูดตรงๆ ลูกค้าทุกคนเป็นกำลังใจให้อย่างดี แล้วปูมีเวลาเกือบ 2 อาทิตย์กว่าที่จะนั่งพิจารณาไตร่ตรอง แล้วก็ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยมองว่าผลกระทบต่องานตอนนี้ไม่มีนะคะ แต่วันนี้เหตุผลที่เปลี่ยนเสื้อเพราะอย่างที่บอก ชีวิตนี้ปูทำงานมาหลายปีมาก แล้วมันมีบางเรื่องที่ปูแคร์และรักมาก คือการทำงานสังคมของปู ปูเลยขอสงวนสิทธิ์ในวันนี้ ที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ในงานวันนี้ และโดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่เป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองของประเทศเราด้วย ปูขอยุติและหยุดพูดเรื่องข่าวนี้ แต่วันนี้ที่ชี้แจงกับพี่ๆสื่อมวลชนแล้วก็แฟนๆเพราะเชื่อว่าทุกคนรอคำพูดจากปู แต่วันนี้คำพูดของปูมีอย่างเดียว ถ้าจบด้วยสันติวิธีได้ ปูก็ขอความกรุณาอยากจบแบบนั้น



กุ๊บกิ๊บก็ถูกพาดพิงเราได้คุยบ้างไหม ?

กุ๊บกิ๊บปูคุยค่ะ ก็คือไดเร็กแมสเสจที่ปูคอมเมนต์ลงเพจเขา ว่ารู้นะไม่ได้พูดถึงปู แล้วปูก็ไดเร็กแมสเสจกันตอนที่ปูอยู่อเมริกา เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้พาดพิงถึงปู ปูเชื่อ แล้วปูก็รู้สึกว่าอย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวเลยจริงๆ จากประสบการณ์ของคนที่เป็นข่าวนะ ปูรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดี เลยรู้สึกว่าวันนี้ไม่ต้องการให้คำพูดใดๆที่ออกจากปากปูทำให้สถานการณ์หรือใครรู้สึกไม่ดี ถ้าเป็นไปได้อยากจะออกมาให้เป็นรูปแบบที่มีความเมตตา และความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะการมีปากเสียงกันหรือมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งออกสื่อมวลชนมันไม่ใช่เรื่องที่ดีค่ะ



ช่วงที่ผ่านมา เรามีความเครียดหรือวิตกอะไรบ้าง ?
ไม่นะคะ พอเป็นผู้ใหญ่เราต้องรู้ว่าอารมณ์ มันไม่ได้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ปูเองก็เคยใช้อารมณ์ ไม่ใช่ไม่เคย ก็เลยมองว่าในเคสนี้ เราต้องมองที่การกระทำก่อน แล้วมองด้วยเหตุผล แล้วก็มองด้วยหลักการ แล้วก็มองว่าเราอยู่จุดนี้ได้ยังไง แล้วข้างหน้าจะเดินไปได้ยังไง แล้วเราต้องมองด้วยว่าทางออกที่เราต้องการคืออะไร ทางออกของปูก็คืออยากให้ทุกฝ่ายจบโดยดี ปูไม่ได้ต้องการอะไรจากสิ่งนี้ แต่ปูเชื่อมั่นว่าที่เราถึงจุดนี้ มันมีตั้งแต่กติกาสัญญาเรื่องข้อตกลง มันมีรายละเอียดที่ปูไม่สามารถชี้แจงเพิ่มเติมได้ แต่ใจปูที่ไตร่ตรองและคิดว่าวันนี้จะต้องเกิดที่เราต้องเจอสื่อ แล้วขอให้วันที่เราเจอสื่อไม่พูดกระทบใครแต่อย่างใด แล้วก็พูดด้วยความเข้าใจจริงๆ



กรณีนี้มีผลต่อการตัดสินใจเรื่องงานในอนาคตไหม?
ปูว่าทุกอย่างในชีวิตก็คือประสบการณ์ แล้วปูก็ว่าบางครั้งเวลาปูทำงานปูก็ไตร่ตรอง ตัดสินใจ แต่ปูขอพูดก่อนว่าปูทานสินค้าเขาจริง แล้วไม่เคยพูดถึงสินค้าในทางลบเลย สินค้าเขามี อย. แล้วปูก็ทาน อันนี้คือข้อที่หนึ่งก่อน ปูก็อยากจะพูดให้เขาสบายใจตรงนั้น เพราะการที่เราไม่ชัดเจนตรงนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อเขา แต่ในอนาคตจริงๆสัญญาตัวนี้ก็ถูกร่างโดยคุณชาย ทนายปู ก็คือค่อนข้างละเอียดแล้วทุกสัญญาพี่ชายเป็นคนที่ร่างทุกอัน



เรื่องนี้จะใช้เวลานานแค่ไหน?
สำหรับปูตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อย่างที่บอกถ้าจบด้วยสันติวิธีคือวิธีที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้บางเรื่องชีวิตเราต้องจัดการอะไรเยอะมากแล้ว ปูปล่อยให้ทนายปูเป็นคนทำ จริงๆปูไม่ได้ถาม หรืออัปเดต ก่อนมาวันนี้ก็ไม่ได้อัปเดตว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะถือว่าเรามอบหมายงานให้เขาแล้ว เราก็ปล่อยวางตรงนั้นไป



แมทธิวว่าอย่างไรบ้าง?
เขาก็เป็นกำลังใจที่ดี คงไม่เหมาะสมถ้าปูจะบอกความคิดเห็นเขาออกสื่อ แต่จริงๆแล้วทางเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ว่าเราโตๆกันแล้ว เราทำงานเราก็ต้องรับผิดชอบในงานของเรา แต่ปูเชื่อว่าในเคสนี้ ปูทำหน้าที่ของปูดีที่สุด



เรามั่นใจในเอกสารหลักฐานที่เรามีไหม
มั่นใจค่ะ แต่อย่างที่บอกการที่พูดว่ามั่นใจมันจะกระทบไปฝั่งโน้น ก็เลยขออนุญาตสงวนสิทธิ์ไม่ใช้คำนั้น แต่สิ่งที่อยากจะย้ำแล้วก็ย้ำอีก คือ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกฝ่ายจบด้วยดี