ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ไม่ปฏิเสธการเผชิญหน้าทางทหารกับอิหร่าน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ผู้นำอิหร่านมานั่งโต๊ะเจรจากับเขา เพื่อแก้ปัญหานิวเคลียร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้ผู้นำอิหร่านมานั่งพูดคุยกับเขา เรื่องการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และบอกว่า เขาไม่อาจปฏิเสธการเผชิญหน้าทางทหาร ซึ่งยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศพุ่งสูงขึ้น ในการแถลงข่าวโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้าที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ปฏิเสธที่จะพูดถึงสิ่งที่กระตุ้นให้เขาส่งเรือบรรทุกฝูงบินรบ “ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น” เข้าสู่ตะวันออกกลาง กรณีที่ถูกระบุว่า มีภัยคุกคามเกิดขึ้น
ด้านพลเรือโทจิม มัลลอย ผู้บัญชาการกองเรือที่ 5 ของกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งมีฐานทัพอยู่ในบาห์เรน กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ข้อมูลหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่ชี้ชัดว่าพบภัยคุกคามจากอิหร่าน จะไม่สามารถหยุดยั้งเขาในการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินผ่านช่องแคบฮอร์มุซ หากจำเป็น
มัลลอยไม่ได้บอกว่า เขาจะส่งเรือ ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เข้าน่านน้ำยุทธศาสตร์ นอกชายฝั่งอิหร่านแห่งนี้หรือไม่ โดยขณะนี้ เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งได้รับคำสั่งด่วนเข้าสู่ตะวันออกกลางจากรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ อันเป็นการเตือนไปถึงอิหร่าน แล่นผ่านคลองสุเอซ เข้าสู่ทะเลแดงแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี และขณะนี้ อยู่ภายใต้การบัญชาการของมัลลอยแล้ว
ส่วนอิหร่านปฏิเสธการให้ข่าวของสหรัฐเกี่ยวกับภัยคุกคามดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นแค่ข่าวกรองปลอมที่สหรัฐสร้างเรื่องขึ้น
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงว่า เร่งส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลินคอล์นและเครื่องบินทิ้งระเบิด เข้าสู่ตะวันออกกลาง หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ว่า อิหร่านกำลังเตรียมโจมตีกองทัพ หรือผลประโยชน์ของสหรัฐ ซึ่งมัลลอย กล่าวว่า ข้อมูลหน่วยข่าวกรองเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับพฤติกรรมจริงที่สหรัฐสังเกตได้ โดยข้อมูลข่าวกรองชิ้นหนึ่งของสหรัฐ ระบุว่า อิหร่านได้เคลื่อนย้ายขีปนาวุธบนเรือ ซึ่งขีปนาวุธบางทีอาจสามารถยิงจากเรือเล็กได้