พท.ถามไม่เอาสืบทอดอำนาจ แต่หนุน "ลุงตู่" อยู่ต่อหักหลัง ปชช.หรือไม่

2019-05-10 08:35:26

พท.ถามไม่เอาสืบทอดอำนาจ แต่หนุน "ลุงตู่" อยู่ต่อหักหลัง ปชช.หรือไม่

Advertisement

“ลดาวัลลิ์” ฝากคำถามถึงพรรคการเมืองที่เคยหาเสียงไม่เอาสืบทอดอำนาจ แต่มาวันนี้กลับหนุน"ลุงตู่" อยู่ต่อ หักหลังประชาชนที่เลือกมาหรือไม่

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.ฉ กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์การเมืองในวันนี้ท่ามกลางความพยายามใช้อำนาจใช้กติกาที่สุ่มเสี่ยงขัดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อความสำเร็จการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารที่ได้ยึดอำนาจรัฐบาลของประชาชนเมื่อปี 2557 แต่ในช่วง 5 ปีของการบริหารประเทศโดยคณะรัฐประหารดังกล่าว กลับทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยตกต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ประชาชนชาวไทยทุกข์ยากแสนสาหัสถ้วนหน้าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากภาวะเศรษฐกิจปากท้องทดถอย สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่ย่ำแย่ได้กลายมาเป็นประเด็นทางการเมืองที่หลายพรรคการเมืองนำมาใช้เป็นหัวข้อปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง โดนใจประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า ได้เกิดกระแสความหวาดกลัวการจะกลับมาบริหารประเทศของคณะรัฐประหาร2557เพราะกลัวว่าจะมาซ้ำเติมให้เศรษฐกิจยิ่งตกต่ำลงไปอีก หลายพรรคการเมืองจึงประกาศต่อสาธารณชนบนเวทีปราศรัยหาเสียงว่าพรรคของตนไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจและสื่อมวลชนก็ได้นำคำปราศรัยของแกนนำพรรคการเมืองดังกล่าวมาเผยแพร่ไปแล้วจนได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนทำให้ได้ที่นั่งในสภาฯกันถ้วนหน้า แต่พอถึงวันนี้อันเป็นช่วงเวลาของการแย่งชิงกันรวบรวมเสียงให้มากที่สุดเพื่อให้มีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาล ระหว่าง”ฝ่ายหนุนการสืบทอดอำนาจกับฝ่ายหนุนประชาธิปไตย” กลับมีชื่อของพรรคการเมืองหลายพรรคปรากฏในสื่อมวลชนว่าจะไปหนุนฝ่ายสืบทอดอำนาจ มีการแบ่งเค้ก จัดสรรตำแหน่งใน ครม.กันแล้ว การกระทำดังกล่าวของพรรคการเมืองต่างๆนั้น ได้สร้างความสะเทือนใจ ความผิดหวังให้แก่ประชาชนผู้ให้การสนับสนุนเลือก ส.ส.ของพรรคเหล่านั้นไปแล้ว แต่แกนนำของพรรคดังกล่าว”พลิกลิ้น”กลับคำพูดมาหนุน”ลุงตู่”ไม่เคารพสิทธิ์เสียงของประชาชนที่ได้มอบให้

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า ตามที่มีข่าวว่าฝ่ายหนุนการสืบทอดอำนาจรวบรวมเสียงได้ 138 ที่นั่ง ฝ่ายหนุนประชาธิปไตยรวบรวมเสียงได้ 245 ที่นั่ง ในขณะที่ฝ่ายที่ยังไม่ประกาศตัวว่าจะหนุนฝ่ายใด มีอยู่ 116 ที่นั่ง 4 พรรคด้วยกัน คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคชาติพัฒนา จนเกิดเป็นกระแสเรียกร้องจิตสำนึกของทั้ง 4 พรรคการเมืองให้คำนึงถึงความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนมาประกอบการตัดสินใจที่จะหนุนฝ่ายใดจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากหนุนฝ่ายประชาธิปไตยก็จะมีเสียงมากขึ้นคือ 245+116 = 361ที่นั่ง เพราะประชาชนเชื่อว่าถ้าหากทั้ง 4 พรรคดังกล่าวนี้หนุนฝ่ายประชาธิปไตยก็จะได้รัฐบาล ที่มีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เข้มแข็งได้อย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นแนวทางช่วยเหลือประชาชนชาวไทยทุกคนให้หลุดพ้นจากความยากจน จากภาระหนี้สินล้นพ้นตัวได้ในเวลาไม่นาน

“ขอถามไปยัง 4 พรรค 116 ที่นั่งว่า 1.วันนี้ท่านจะเลือกช่วยเหลือประชาชน หรือจะเลือกข่วยเหลือตัวเอง 2.ท่านจะหนุนฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ 3.ท่านจะหนุนฝ่ายสืบทอดอำนาจจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ 4.ถ้าพวกท่านเคยหาเสียงไม่เอาสืบทอดอำนาจ แต่มาวันนี้กลับหนุน"ลุงตู่" อยู่ต่อ ถือเป็นการหักหลังประชาชนที่เลือกเข้ามาหรือไม่?”นางลดาวัลลิ์กล่าวทิ้งท้าย