ผู้โดยสารและลูกเรือ บนเที่ยวบินแอโรฟลอตของรัสเซีย ที่ร่อนลงจอดฉุกเฉินสนามบินเชเรเมตเยโว ชานกรุงมอสโก เมื่อเย็นวันอาทิตย์ เผยว่า เครื่องบินถูกฟ้าผ่า เพียงไม่กี่นาที ก่อนที่เครื่องจะตกกระแทกพื้นรันเวย์ และไฟลุกไหม้ส่วนท้ายเครื่อง ขณะบินย้อนกลับมาลงจอด
เครื่องบินโดยสารแบบซูคอย ซูเปอร์เจ็ต-100 ผลิตในรัสเซีย ของสายการบินแอโรฟลอต บรรทุกผู้โดยสาร 73 คน และลูกเรือ 5 คน ออกเดินทางจากสนามบินเชเรเมตเยโว เมื่อเวลา 18.02 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าสู่เมืองมูร์มานสก์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ แต่เครื่องบินเกิดขัดข้องทางเทคนิค หลังออกเดินทางได้เพียง 28 นาที นักบินจึงวิทยุแจ้งเหตุฉุกเฉิน ขอบินย้อนกลับมาลงจอดที่สนามบินเชเรเมตเยโว แต่เครื่องตกกระแทกพื้นรันเวย์จนไฟลุกไหม้ส่วนท้ายเครื่อง มีผู้เสียชีวิต 41 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กเล็ก 2 คน และแอร์โฮสเตส 1 คน
คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุการณ์ ยังไม่ให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการกล่าวอ้างว่าเครื่องบินถูกฟ้าผ่า ทั้งนี้เครื่องบินโดยสารยุคใหม่ของทุกบริษัท จะผลิตให้กันฟ้าผ่าได้ และเจ้าหน้าที่ของแอโรฟลอตกล่าวเพียงว่า เครื่องบินบินกลับสนามบินต้นทาง ด้วยเหตุผลทางด้านเทคนิค
แต่ผู้โดยสารบนเที่ยวบินหลายคนที่รอดชีวิต เผยว่า ฟ้าผ่าเครื่องบินหลังออกเดินทางได้ไม่นาน ขณะที่นายเดนิส เยฟโดคิมอฟ หนึ่งในนักบินของเที่ยวบินนี้ เผยต่อสื่อรัสเซีย ว่า ฟ้าผ่าทำให้ระบบการสื่อสารกับหอควบคุมการบินขัดข้อง และทำให้เขาต้องหันไปใช้ระบบการบินแบบฉุกเฉิน