ไซโคลน “ฟานิ” ถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย ทำให้ฝนตกหนักและกระแสลมแรง ทางการสั่งอพยพประชาชน 1 ล้านคนออกจากพื้นที่ชายฝั่ง
ไซโคลนกำลังแรง “ฟานิ” พัดถล่มตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของอินเดีย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไซโคลน “ฟานิ” หนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดกระหน่ำภูมิภาคนี้ในรอบ 20 ปี พัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 09.30 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย ทำให้ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน อพยพออกจากรัฐโอริสสา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โอฑิศา ทางตะวันออกของประเทศ เจ้าหน้าที่บอกว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คนในรัฐดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ระบุว่า เกิดคลื่นซัดฝั่งสูง 1.5 เมตร ซึ่งอาจทำลายบ้านเรือนในที่ลุ่มต่ำได้ ไซโคลนลูกนี้ ยังพัดเข้าเมืองปุรี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ที่ตั้งของวัด “จากานนาถ” (Jagannath temple) อายุ 858 ปี อีกทั้งยังคาดว่าจะพัดถล่ม 15 อำเภอในรัฐโอริสสา หนึ่งในรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดีย ก่อนอ่อนกำลังลงในวันเสาร์
เที่ยวบินโดยสารจำนวนมากและการให้บริการรถไฟโดยสารทั้งเข้าและออกรัฐ ถูกยกเลิก ขณะที่โรงเรียนและสำนักงานรัฐบาลก็ปิดทำการ และการทำธุรกิจในท่าเรือ 3 แห่งบนชายฝั่งด้านตะวันออก ก็ปิดด้วยเช่นกัน