ไล่ออกพยาบาลสาวค้ายาเสพติด ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์เครียดขอโทษประชาชนหลังเจอยาเสพติดอื้อใน รพ.
จากที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จับกุม น.ส.ดวงกมล หรือก้อย พิสูตรเสียง อายุ 29 ปี พยาบาลวิชาชีพ ห้องไอซียู อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่10 ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และแฟนหนุ่ม นายเอกรัฐ หรือตุ้ย แสงอาทิตย์อุทัย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 7 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย พร้อมของกลางยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาไอซ์และกัญชาแห้ง มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่ในห้อง 205 ชั้น 2 แฟลตพยาบาล และในล็อกเกอร์ ของ น.ส.ดวงกมล ห้องไอซียู รพ.ประจวบคีรีขันธ์ และที่บ้านพักในหมู่บ้านเพชรอารีย์ 2 ถนนสุขสมบูรณ์ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหารวม 20 รายการกว่า 4 ล้านบาท
เมื่่อวันที่ 3 พ.ค. นพ.ศุภชัย ศุภพฤกษ์สกุล ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้สั่งให้พยาบาลวิชาชีพรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน โดยตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงโดยนำผลจากคดีอาญาประกอบการสอบสวนวินัย ทั้งนี้ได้รายงานให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบตั้งแต่วันจับกุม โดยปลัดกระทรวงสั่งกำชับให้ใช้วิกฤตเป็นโอกาสถือเป็นกรณีศึกษาในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ยอมรับว่าขณะนี้บุคลากรของโรงพยาบาลมีมากกว่า 700 คนมีผลกระทบกับขวัญและกำลังใจ และส่วนตัวยอมรับว่าเครียด หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบยาเสพติดทั้งในแฟลตพยาบาลและในห้องไอซียู ภายในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก
“ผมต้องขอแสดงความเสียใจ ผมขอโทษพี่น้องประชาชนที่มารับบริการและสังคมส่วนรวม ผมพร้อมแสดงความรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นเรื่องเฉพาะตัวของส่วนบุคคล แต่ในฐานะผู้บริหารองค์กรจะต้องนำปัญหาไปแก้ไขเร่งด่วน ไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด ขณะนี้หัวหน้าพยาบาลห้องไอซียูก็มีความเครียด ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะมีการนำยาเสพติดไปซุกซ่อนไว้ในห้องทำงานทั้งที่มีอาชีพเป็นพยาบาลที่มีความมั่นคง มีเกียรติ มีอนาคตที่ก้าวหน้า และปกติเจ้าหน้าที่ห้องไอซียูก็มีภาระงานที่ทำให้มีความเครียดจากการรักษาผู้ป่วยหนักอยู่แล้ว ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องเจอปัญหาที่เกี่ยวข้องยาเสพติดจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้กำชับทุกครั้งในการประชุมคณะกรรมการบริหารให้ระวังเรื่องยาเสพติดมาโดยตลอด ส่วนการขอตรวจค้นกระเป๋าของเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปทำงานยอมรับว่าทำได้ยาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากและอาจมีปัญหาเกิดขึ้นอีกหากมีการเลือกปฏิบัติเฉพาะเจ้าหน้าที่พยาบาล” นพ.ศุภชัย กล่าว