เผยเหยื่อบึ้มศรีลังกามีต่างชาติ 42 คน

2019-05-02 09:45:03

เผยเหยื่อบึ้มศรีลังกามีต่างชาติ 42 คน

Advertisement

กระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา เผยในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า เหตุระเบิดโจมตีโบสถ์คริสต์ 3 แห่ง และโรงแรมหรู 3 แห่งในศรีลังกา ในวันอีสเตอร์ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติเสียชีวิต 42 ราย จากจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทั้งหมด 253 ราย และยังมีชาวต่างชาติอีก 12 คนสูญหาย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจรวมอยู่ในศพผู้เสียชีวิต ในห้องชันสูตรของแผนกนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจกรุงโคลัมโบ ที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้

นอกจากนั้นยังมีชาวต่างชาติอีก 5 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ และยังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล

แถลงการณ์ฯ กล่าวอีกว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในเหตุการณ์มากที่สุด เป็นชาวอินเดีย 11 คน รองลงไปเป็นชาวอังกฤษ 6 คน ชาวจีน 4 คน ชาวเดนมาร์ก 3 คน ซาอุดีอาระเบีย สเปน และตุรกีประเทศละ 2 คน ส่วนประเทศละคนประกอบด้วย บังกลาเทศ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และอีก 6 คนถือมากกว่า 1 สัญชาติ




เจ้าหน้าที่ศรีลังกาเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางกลับประเทศ และเมื่อบวกกับการประกาศเตือนภัยของหลายประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนศรีลังกาลดลงอย่างเห็นได้ชัด และจากคาดการณ์ของกระทรวงการคลังศรีลังกา นักท่องเที่ยวไปเยือนประเทศอาจจะลดลงราว 30 % ในปีนี้ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 47,810 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติศรีลังกา เปิดเผยภาพถ่ายและรายชื่อ กลุ่มคนร้ายทีมมือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการก่อวินาศกรรมก่อการร้าย ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ทีมมือระเบิดพลีชีพ 9 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ชาย 8 คน และผู้หญิง 1 คน ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจสงสัยว่าเป็นสมาชิกของ 2 กลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักคือ กลุ่มเนชั่นแนล ตอว์ฮีด ญามาอัต หรือ เอ็นทีเจ กับกลุ่มญษามิญาตุล มิลลาธู อิบรอฮิม หรือเจเอ็มไอ




แหล่งข่าวในรัฐบาลศรีลังกา เผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอื่น ๆ ทั่วศรีลังกา ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ได้รับคำสั่งให้อยู่ในภาวะเฝ้าระวังสูงสุด เนื่องจากคาดว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะพยายามลงมือโจมตีอีกครั้ง ก่อนถึงเดือนศักดิ์สิทธิ์รอมฎอนของชาวมุสลิม ซึ่งปีนี้จะเริ่มต้นในวันจันทร์ที่ 6 พ.ค