จบด้วยดีกรณีพัสดุ “เซ็กซ์ทอย” 4 อดีตพนักงานคัดแยกสินค้า “เคอรี่” ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายที่คึกคะนอง ไร้วุฒิภาวะ ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบ ด้าน “เคอรี่”รับผิดชอบทุกกรณี เยียวยาค่าเสียหายทางจิตใจ ส่วนเหยื่อสาวให้อภัยภายใต้เงื่อนไขความลับส่วนบุคคลจะไม่ถูกเผยเเพร่ เเละไม่มีการคุกคามใดๆ
เมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา เพจล่าได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ขอร้องได้ไหม อ่านให้จบได้ไหมคะ เเละขอให้เชื่อใจเเอดมิน ในสิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้นะคะ หลังจากที่ลงเพจไป เป็นข่าวดังข้ามคืน มีน้อง inbox เข้ามาค่ะ ได้มาอ่านเอาตอน 14.00 น. น้องบอกว่าหนูคือ เจ้าของพัสดุเอง เลยถามว่า น้องได้รับของเเล้วเหรอ น้องบอกว่ายัง ก็ อ่าวเเล้วรู้ได้ไงว่าเป็นของของเรา น้องบอกว่า เคอรี่ติดต่อมาขอเจรจาวันนี้ค่ะ ให้หนูเข้าไปพบ พี่ไปกับหนูได้ไหม ได้สิ เมื่อพบกัน ทั้งเเอดมิน เเละพี่ๆ นักข่าวที่มาด้วยกัน เราได้รับรู้ถึงความทุกข์ที่มันออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ตามที่เล่าไปในโพสต์ก่อนหน้านี้
หลังจากคุยกับน้องเสร็จ ระหว่างเดินทางไปตามนัดหมายของเคอรี่ เเอดมินโทรปรึกษาทนายเจมส์ ซึ่งได้เเนะนำเเนวทางในการเจรจามา 3 ข้อค่ะ 1.ต้องมีการขอโทษ 2.ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย 3.ต้องมีจุดจบของเรื่องนี้ ก็ตามนั้น เมื่อไปถึงที่นัดหมาย ผู้เสียหายได้รับการต้อนรับอย่างดีค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ผู้เเทนส่วนกลาง เเละระดับผู้บริหารสาขา ผู้เเทนกล่าวขอโทษ เเละขอให้ผู้เสียหายได้ระบายความในใจต่างๆ ออกมาจนหมด เราได้เห็นเอกสารการให้ออกจากงานฉบับจริง มีการเซ็นชื่อ เเละได้พบตัวเป็นๆ ของทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นพนักงานคัดเเยกสินค้า ทั้งหมดถูกนำตัวเข้ามาในห้อง ให้ผู้เสียหายได้พูดคุย เเละระบายความทุกข์ในใจ ทั้ง 4 คน ทุกคนยกมือไหว้ ขอโทษผู้เสียหาย ขอโทษที่คึกคะนอง ไร้วุฒิภาวะ เเละไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบว่า มันจะบานปลายสาหัส ผลกระทบวงกว้างขนาดนี้
ซึ่งเเอดมินสัมผัสได้ว่า มันเป็นคำขอโทษที่ออกมาจากความสำนึกผิดของพวกเขาจริงๆ ค่ะ เเละน้องผู้เสียหายเองก็รู้สึกเช่นนั้น ถ้าใครได้อยู่ในห้องนั้น จะทราบถึงบรรยากาศว่า 4 คนนั้น เหมือนหนูที่หวาดกลัวเเมวตัวใหญ่ จะตะปบเอาชีวิต เพราะในห้องนั้นไม่มีใครอยู่ข้างผู้กระทำผิดเลย
ในส่วนของเคอรี่รับผิดชอบทุกกรณี ทั้ง 1.การขอโทษ 2.การเยียวยาค่าเสียหายทางจิตใจให้น้องมีชีวิตในสังคมได้ต่อ อับอาย งานไปทำไม่ได้ หวาดกลัวความปลอดภัย 3.ข้อยุติของเรื่องนี้คือ หากต้องการดำเนินคดีเคอรี่จะซัพพอร์ททุกกระบวนการ เเม้ว่าทั้ง 4 คนจะไม่ใช่พนักงานของเคอรี่เเล้วก็ตาม บรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงความสำนึกผิดอย่างจริงใจ เเอดมินไม่ได้รู้สึกไปเอง ตัวผู้เสียหาย เเละพี่ๆ สื่อมวลชนที่ไปด้วยกันก็สัมผัสได้ค่ะ
น้องผู้เสียหายให้อภัยค่ะ เพราะเห็นว่าสำนึกผิดจริง เเละเข้าใจชีวิตการเป็นลูกจ้าง ที่หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน เเละได้รับโทษทางสังคมอย่างสาหัสเเล้ว เเต่เป็นการให้อภัยภายใต้เงื่อนไขว่า ความลับส่วนบุคคลของผู้เสียหายจะไม่ถูกเผยเเพร่ เเละจะไม่มีการคุกคามใดๆ กับผู้เสียหายทั้งสิ้น เเอดมินเป็นตัวกลางเจรจา เห็นว่า ok ปิดเคส ล่าร้องเรียนนะคะ ได้เห็นว่า ผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เป็นมืออาชีพ มีกระบวนการแก้ปัญหาที่ดีอย่างไร
อยากให้สังคมเพจล่าได้คิดตามว่า เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น การเอาเป็นเอาตายกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันอาจจะจบได้ค่ะ เเต่เราจะมีความสุขเเท้จริงเท่าการให้อภัยไหม เท่ากับที่เราต่างฝ่ายต่างได้รับการเยียวยาที่พึงพอใจ เเละเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปได้หรือไม่ นั่นต่างหากคือ การแก้ปัญหาที่เเท้จริง คนผิด สำนึก กลับตัว เหยื่อ ให้อภัย ได้รับการเยียวยา เดินหน้าต่อ คือสิ่งที่สังคมเพจล่าต้องการ
ขอบคุณเพจล่า