โฆษกศาลปกครองชี้คดีโฮปเวลล์ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา

2019-04-22 19:30:27

โฆษกศาลปกครองชี้คดีโฮปเวลล์ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา

Advertisement

โฆษกศาลปกครองชี้หลังศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยถือว่าสิ้นสุด ขั้นตอนต่อไปจ้องดูว่าลูกหนี้คือ กระทรวงคมนาคม –รฟท. ปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่

เมื่อวันที่ 19.15 น. วันที่ 22 เม.ย. นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง ให้สัมภาษณ์รายการนิวข่าวค่ำ ทางช่องนิว 18 ถึงกรณี ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง คดีโฮปเวลล์ และให้กระทรวงคมนาคม โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายคืนเงินค่าก่อสร้าง แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180วันว่า คดีนี้ถือว่าถึงที่สุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปสำนักบังคับคดีจะติดตามว่า ลูกหนี้ คือ กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาคือการชำระหนี้ให้บริษัทโฮปเวลล์หรือไม่

“ข้อพิพาทเรื่องนี้ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายต่าง ๆ ประเด็นคือฝ่ายใดผิดสัญญญา กรณีนี้ไม่ได้ผิดสัญญา แต่มีการยกเลิกสัญญากัน เมื่อไม่ได้ผิดสัญญาก็ต้องคืนสู่สถานะเดิม คือ บริษัทก็ได้รับค่าใช้จ่ายที่ชำระห้กับ รฟท. ค่าก่อสร้างต่างๆ รวมทั้งค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็ได้คืนหมด นี่คือคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ”นายประวิตร กล่าว

โฆษกศาลปกครอง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ศาลไม่สามารถตรวจสอบลึกถึงการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการได้ ยกเว้น คำชี้ขาดนั้น ขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบรอย เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ปรากฎว่า ฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยอันดีของประชาชน ศาลปกครองสูงสุดไม่สามารถเพิกถอนได้ ก็ต้องบังคับตามคณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัย สำหรับประเด็นอายุความการนำเข้าสู่อนุญาโตตุลาการ มีอายุความ 5 ปีบริษัท โฮปเวลรู้เมื่อปี 2541 และนำเข้าสู่การพิจารณาเมื่อปี 2547 หรือ 6 ปี เพียงแต่ว่าตอนปี 2541 ศาลปกครองยังไม่เปิดทำการ ศาลปกครองเปิดทำการเมื่อปี 2544 เพราะฉะนั้นศาลปกครองชั้นต้นเพิกถอนคำชี้ขาด แต่พอมาถึงศาลปกครองสูงสุด การนับระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ 2541 ไม่ถูก ต้องนับปี 2544 เมื่อศาลเปิดทำการ ดังนั้นอายุความเท่ากับ 3 ปี ไม่ถึง 5 ปี