ตร.แจ้งข้อหาเสี่ยเบนซ์ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เมาแล้วขับชน พ.ต.ท.เสียชีวิตพร้อมภรรยา ด้านผู้ต้องหาสารภาพดื่มเบียร์กับเพื่อน 4-5 ขวด
จากกรณีที่นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ขับ รถเบนซ์ E 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ขับรถชนรถซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. เสียชีวิตคาที่ ขณะเดียวกัน นางนุชนาถ งามสุวิชชากุล 44 ปี ภรรยาถูกนำส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนบุตรสาว คือ น.ส.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณซอยงามธรรมชาติ ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม.
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ สน.ศาลาแดง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และโฆษก ตร. กล่าวว่า จากการสอบสวน นายสมชาย ยอมรับในเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุไปเล่นกอล์ฟ ที่สนามไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ มีการดื่มเบียร์กับเพื่อนร่วมก๊วนประมาณ 4-5 ขวด กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ก็หยุดดื่ม แยกย้ายกันกลับแล้วขับรถออกมา จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัว กระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถุงลมนิรภัยทำงาน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว คดีนี้นอกจากจะแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายสมชาย ในความผิดฐาน ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตามและมีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 15 - 20 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตด้วย ทั้งนี้จะควบคุมตัว นายสมชาย ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย หากพบว่าขับขี่รถขณะมึนเมาสุราและเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตก็ให้แจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" แต่หากพบว่าคู่กรณีไม่เสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บ ก็สามารถตั้งข้อหา "พยายามฆ่า" ได้เช่นกัน