ดร.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการเฟซออฟ เปิดบ้านเลขที่ 124 /3 หมู่บ้านมณียา เพอร์เฟคมาสเตอร์พีช ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ให้สื่อมวลชนรับฟังการแถลงข่าวกรณีถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ว่า "ฉ้อโกงประชาชน"
หลังจากก่อนหน้านี้ ผบช.สตม.นำทีมแถลงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ดร.เซปิง ไชยศาส์น และพวกข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 5 ล้านบาท ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามที่สื่อเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันนี้ นายจำนงค์ ไชยมงคล ทนายความของ ดร.เซปิง พร้อมดร.เซปิง ไชยศาส์น ได้เปิดแถลงข่าว โดยทนายกล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่มีการกล่าวหาฉ้อโกงนั้น ดร.เซปิงไม่ได้มีเจตนาทำแบบนั้นเลย และว่าการกล่าวหาเกิดจากคน 6 -7 คน เท่านั้น แต่ว่าคนผ่านโครงการเฟซออฟนั้นมีมากกว่าพันคน
ด้าน น.ส.เซปิง กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่มารับฟังความจริง ถือเป็นความเจ็บปวด ยอมรับว่าเป็นความโหดร้ายที่สุดของชีวิตที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน ทั้งที่ไม่เคยทำ และไม่เคยคิด โดยตนตั้งใจทำโครงการเฟซออฟที่ตั้งขึ้นถือว่าเป็นโครงการช่วยเหลือคน และที่นี่เป็นจุดกรอกเอกสาร, ทำประวัติ เท่านั้นไม่ใช่สถานพยาบาลหรือสถานที่ผ่าตัด
การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมกักขังคนที่มาปรึกษาและลงทะเบียนจองคิวทำใบหน้าโดยพยายามโน้มน้าวให้ผู้กำลังมาลงทะเบียนจองคิวที่โครงการพูดว่า ดร.เซปิง หลอกลวง.ปชช.
ที่น่าสังเกตคือผู้ที่แจ้งความ มี 6 -7 คน ได้ทำหน้าไปแล้ว 2 ปี แต่เพิ่งมีการมาแจ้งความว่าถูกโกง ส่วนประเด็นการทำหน้าแล้วไม่สวย น.ส.เซปิง ยืนยันว่าผู้ทำการปรึกษาแก้ไขปัญหาบนใบหน้ามีแผลที่เป็นรอยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้เกิดจากการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้แต่อย่างใด
น.ส.เซปิง ระบุ เพิ่มเติมว่า โครงการเฟซออฟด็อกเตอร์เซปิง ตั้งขึ้นเพื่อให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะมีความรู้เรื่องศัลยกรรม หรือผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรม โดยทำใหม่ หรือแก้ไขที่เคยผิดพลาดจากเจ้าอื่นซึ่งได้มาขอความช่วยเหลือ ตนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ร่วมโครงการ เป็นที่ปรึกษาและแนะนำความรู้ตามประสบการณ์ที่ได้ผ่านการทำศัลยกรรมมาเช่นกัน โดยตนไม่ได้จบด้านแพทย์และไม่เคยพูดว่าจบแพทย์แต่อย่างใด และหลังจากให้คำปรึกษาจึงแนะนำให้ทำศัลยกรรมกับ รพ.ที่ได้มาตรฐานทุกคน
ขณะที่ผู้ร่วมโครงการบางราย เมื่อทำหน้าในโครงการไปแล้วต้องการทำเพิ่มแต่ไม่มีเงินจ่าย ทำให้โครงการต้องเป็นผู้สำรองเงินให้โดยไม่คิดดอกเบี้ย และกลุ่มคนดังกล่าวไม่ยอมผ่อนชำระ ซึ่งทางโครงการได้ผ่อนผันให้เพื่อให้โอกาสผู้เข้าร่วม แต่ผู้ทำศัลยกรรมบางรายไม่ต้องการชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ จึงรวมตัวกันตั้งกลุ่มและพากันเรียกร้องในรายการตามที่เป็นข่าว
ทั้งนี้ ดร.เซปิง ยืนยันว่า ไม่เคยฉ้อโกงใคร ไม่ได้มีกระบวนการใดๆที่จะเป็นการฉ้อโกง ไม่ได้กระทำการใดที่ผิดกฎหมาย และไม่ได้ถูกอายัดทรัพย์ตามที่เป็นข่าว โดยหลังจากนี้ตนและทนายความจะรวบรวมข้อมูล หลักฐานทั้งหมดเพื่อฟ้องกลับผู้ที่ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงในข้อหาหมิ่นประมาท โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี
สำหรับโครงการเฟซออฟเปิดโครงการตั้งแต่ปี 2559 โดยมีนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อย่าง"สุรชัย สมบัติเจริญ" ได้เข้าร่วมในโครงการนี้จนเกิดกระแสอย่างกว้างขวาง ทำให้มีคนเข้ามาปรึกษาและร่วมโครงการจำนวนมาก