เปิดใจว่าที่ ส.ส.เด็กวัดล้ม "วิทยา"

2019-03-27 16:10:06

เปิดใจว่าที่ ส.ส.เด็กวัดล้ม "วิทยา"

Advertisement

เปิดใจ "น้องชัย" จากเด็กวัดก้าวสู่ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช ล้มอดีต ส.ส.  "วิทยา แก้วภราดัย"


เมื่อวันที่ 27 มี.ค. จากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของ จ.นครศรีธรรมราช ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชนะการเลือกตั้งถึง 3 เขตจากทั้งหมด 8 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ เขตเลือกตั้งที่ 2 ว่าที่ ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง และเขตเลือกตั้งที่ 7 นายสายัณห์ ยุติธรรม ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้า 1 ของ จ.นครศรีธรรมราช ที่เกือบ 30 ปีที่ผ่านมาผู้สมัครเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชนะคู่แข่งขาดลอยต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตที่ประชาชนวิพากวิจารณ์กันอ่างกว้างขวาง คือเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ว่าที่ ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง หรือที่รู้จักกันในนาม "น้องชัย" หนุ่มลุ่มน้ำปากพนังขนานแท้ เกิดในครอบครับที่มีฐานะยากจนและเป็นเด็กวัด สามารถเอาชนะ นายวิทยา แก้วภราดัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.เจ้าของพื้นที่ต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 สมัย ที่สำคัญยังเคยดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งบางคนเปรียบศึกใหญ่ในพื้นที่นี้ว่าเป็นมดแดงล้มช้างกันเลย

ดร.สัณหพจน์ กล่าวว่า เป็นคน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดในครอบครับที่มีฐานะยากจน พ่อแม่มีอาชีพค้าขาย ในตอนเด็กๆ ต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน ตื่นตั้งแต่ตี 4 ไปเดินทางด้วยเรือหางยาวไปช่วยพ่อค้าขายที่ตลาดนัดบ้านบางตะลุมพอ อ.ปากพนัง และตอนเรียนมัธยมที่ จ.ตรัง ก็ปลูกข้าวโพด เลี้ยงนกกะทา เลี้ยงปลาดุก พอเลิกเรียนก็จะต้มข้าวโพดและไล่นกกะทาขาย ชีวิตตนเป็นเด็กวัด อยู่วัดบวชกับท่านเจ้าคุณทองและช่วยเหลือตัวเองมาตลอด โดยเป็นลูกศิษย์เจ้าคุณทอง อดีตเจ้าคณะ จ.เพชรบุรี ซึ่งท่านเป็นคน อ.เชียรใหญ่ และมาสร้างวัดที่ อ.เชียรใหญ่ หน้าบ้านของตนทำให้คลุกคลีกับวัดมาโดยตลอด จนถึงช่วงเข้าเรียนปริญญาตรีก็กู้ยืมเงินทุนเพื่อการศึกษา


ดร.สัณหพจน์ กล่าวต่อว่า สนใจการเมืองมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ปัจจุบันอายุ 45 ปีเศษจึงถือว่าทำกิจกรรมทางการเมืองมาตลอดเกือบ 30 ปี โดยเมื่อปี 2550 เคยลงสมัคร ส.ส.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งมี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เขต 12 ต่อมาในปี 2556 ได้ตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนั้นมีผู้ลงสมัครมากถึง 24 คน และนิด้าโพลได้สำรวจนโยบายและสโลแกนการหาเสียงของผู้สมัครทุกคนปรากฏว่านโยบายและสโลแกนของตนได้รับความนิยมและได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง คือนโยบายทะลายกำแพงบ้าน อย่าเลือกผมถ้าคุณไม่ใช่คนดี

ดร.สัณหพจน์ มั่นใจว่านับจากนี้จะสามารถพัฒนาพื้นลุ่มน้ำปากพนังให้เป็นที่รู้จักและดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และหาดใหญ่ จ.สงขลา บนสโลแกนที่ว่า "แวะไหว้พระธาตุเมืองนคร แวะนอนลุ่มน้ำปากพนัง ชมวิถีชีวิตชุมชนสองฟากฝั่ง นั่งเล่าความหลังกันทั้งชุมชน” ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ คนเฒ่าคนแก่ก็ทำขนมจาก ข้าวเหนียวห่อกล้วย ทำขนมพื้นบ้านขายนักท่องเที่ยว ทำให้ลุ่มน้ำปากพนังมีชีวิตชีวาดีขึ้น เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นบรรดาลูกหลานที่ไปใช้ชีวิต ไปทำงานในต่างถิ่น ก็จะได้หวนกลับมาอยู่บ้าน มาอยู่กับพ่อกับแม่ โดยเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย คืออยากเห็นลูกหลานกลับมาอยู่บ้านบนพื้นฐานเศรษฐกิจที่จะรองรับหากมีรายได้วันละ 1,000-2,000 ก็อยากจะกลับมาอยู่บ้านเดิม ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปต้นคงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเมื่อก่อนหากทำอะไรมากเกินไปเขาก็จะหาว่าสร้างภาพ แต่ต่อไปจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีชีวิตแบบเดิมที่เป็นตัวตนจริงๆ จะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด จะไม่ถือตัวว่าเป็น ส.ส. เพราะเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดและเป็นนิสัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร