ปัญหาฝุ่นเชียงใหม่วิกฤตติดอันดับ 1 ของโลก

2019-03-22 13:45:45

ปัญหาฝุ่นเชียงใหม่วิกฤตติดอันดับ 1 ของโลก

Advertisement

ปัญหาฝุ่นละออง จ.เชียงใหม่วิกฤติ ทะยานติดอันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง 



เมื่อช่วงเช้า วันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์หมอกควันที่ จ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาได้มีพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ภาคเหนือพัดผ่านจนสามารถบรรเทาปัญหาหมอกควันไปได้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในเช้าวันนี้พบว่าได้มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่ อีกครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลดาวเทียมพบว่าได้มีการตรวจพบจุดความร้อน ( Hotspot ) ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือเพิ่มมากขึ้นถึง 996 จุด โดยพบมากที่สุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน 250 จุด รองลงมาเป็น จ.เชียงใหม่ 218 จุด จ.เชียงราย 139 จุด และ จ.ลำปาง 122 จุด

นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีค่า 73 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นค่าฝุ่น PM 2.5 มีค่า 63 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งเด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง




ทั้งนี้จากข้อมูลของทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่าแม้จะไม่มีกระแสลมพัดผ่านจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขึ้นมาทางตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แต่เช้านี้กลับพบว่ามีกลุ่มควันหนาทึบ ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านและทาง จ.แม่ฮ่องสอน มาสมทบกับกลุ่มควันจากไฟป่าและการเผาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้เกิดปัญหาวิฤติทางคุณภาพอากาศขึ้นอีกครั้ง



โดยจากข้อมูลของ เว็บไซต์ airvisual ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของ จ.เชียงใหม่ ที่เมื่อวันที่ 21 มี.ค. อยู่อันดับ 10 ของโลก แต่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ค่ามลพิษในอากาศของ จ.เชียงใหม่พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง โดยดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 228 US AQI




ด้านศูนย์ควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีไฟป่าเกิดขึ้นที่บริเวณ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ 5 จุด และที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ 3 จุด โดยทางศูนย์ควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จิตอาสาดับไฟป่า ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการดับ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราและคอยเผ้าระวัง รวมถึงการสร้างแนวกันไฟเพื่อป้องกันการลุกลามของไฟป่า นอกจากนี้ยังได้มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ป้องกันไฟป่า เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ให้เกิดความยั่งยืนและยาวนานต่อไป