เปิดใจแม่ "สตรีแห่งขุนเขา" หลังยันยืนแล้วว่าเป็นลูกสาวที่หายไป อยากได้กระดูกลูกกลับบ้านเกิดทำบุญ วอนเจ้าหน้าที่จับคนร้ายให้ได้
จากกรณี พบศพหญิงสาวบนภูเขาอุทยานแห่งชาติยอร์กเชีย ศพถูกฝังในสุสานหมู่บ้านฮอร์ตันอินริบเบิลส์เดล ชาวบ้านเรียกว่าเป็น “สตรีแห่งขุนเขา” ขณะที่ นายบัวสา อายุ 75 ปี และ นางจอมศรี สีกันยา อายุ 72 ปี สงสัยว่าจะเป็นลูกสาว ชื่อ นางลำดวน สีกันยา ที่แต่งงานกับชาวอังกฤษ และหายสาบสูญไปถึง 14 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอของทั้ง 2 คน ไปเปรียบเทียบกับศพดังกล่าว กระทั่งล่าสุดทางสำนักข่าวบีบีซีไทย ระบุว่า ตำรวจอังกฤษยืนยันแล้วว่า ศพที่พบคือ นางลำดวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโพน หมู่ 7 ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายบัวสา และนางจอมศรี หลังจากที่ นางจอมศรี กลับจากไปซื้อของที่จะนำไปทำบุญบังสุกุลที่วัดในหมู่บ้าน ได้บอกว่าก่อนหน้านี้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เคยทำบุญบังสุกุลให้กับลูกสาวมาครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากเขาหายไปไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งคนอีสานมีความเชื่อว่า หากลูกสาวตาย จะได้รับผลบุญที่ทำไปให้ หากยังไม่ตายจะได้กลับมาหา
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ทำใจเอาไว้แล้ว พอมีคนมาบอกว่า สำนักข่าวบีบีซีไทย ลงข่าวระบุว่า ตำรวจอังกฤษยืนยันว่าศพดังกล่าวเป็นลูกสาวตน ก็อยากได้กระดูกกลับมาบ้านเกิด เพื่อจะทำบุญ อุทิศส่วนกุศล ตามประเพณีของคนอีสานจะได้ไปเกิดในภพใหม่
นางจอมศรี กล่าวต่อว่า อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนำกระดูกลูกสาวกลับมา ส่วนเรื่องคดีความก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไป หากว่าลูกสาวถูกใครฆาตกรรม ก็อยากให้จับคนที่ทำกับลูกสาวให้ได้ เพื่อจะได้มารับโทษที่ทำกับลูกสาวของตน
ต่อมา นายณัฐพล วีถี นายอำเภอเพ็ญ ได้เดินทางมาที่บ้านพ่อแม่ของนางลำดวน เพื่อมาให้กำลังใจ และสอบถามถึงความคืบหน้า โดยจะให้ความช่วยเหลือในการหาแนวทางนำกระดูกกลับมาบ้านเกิดที่ประเทศไทย เพื่อที่จะนำไปทำบุญ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป