ปัญหาหมอกควันเชียงใหม่ยังไม่หมด แม้สถิติจะตกไปอยู่อันดับ 10 ของโลก แต่ก็ยังมีคนเผาป่าอยู่ ล่าสุดจับกุมได้ 1 ราย ขณะเผาที่การเกษตรก่อนลุกลามเข้าป่า
วันที่ 20 มี.ค. นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก นายพงษ์ศักดิ์ วุฒิสาร หัวหน้าสายตรวจชุดที่ 1 (พร้าว) ว่า คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ประกอบด้วย หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ศล.1 (แม่แพงม่อนหินไหล) หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ศล.7 (ห้วยปุย) ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ และออกตรวจลาดตระเวนไฟป่า บริเวณป่าห้วยเรือ หมู่ที่ 1 ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พบเห็นกลุ่มไฟกำลังลุกไหม้บริเวณใกล้เคียงพบเห็นแสงจากไฟฉาย จึงได้เข้าตรวจสอบ พบชาย 1 คน ชื่อนายสวัสดิ์ กองเขียว อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 161 หมู่ 3 ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมไฟแช็ก 1 อัน จึงควบคุมตัวไว้
จากการสอบสวนให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนจุดไฟเผาเอง โดยต้องการปรับพื้นที่เพื่อทำเป็นสวน ก่อนจะเกิดการลุกลามเข้าไปในป่า ทำให้ไม่สามารถควบคุมได้ หลังการสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวนั้น ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดเชียงใหม่ และประกาศอุทยานแห่งชาติศรีลานนา และผิดตามกฎหมาย ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54, พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14, พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(1) และมาตรา 18 จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.หนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศในช่วงระหว่าง 2 - 3 วันนี้ พบว่ามีความชื้นต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ โอกาสทำฝนน้อยมาก อากาศร้อนตอนกลางวัน ฐานเมฆสูงมาก 9,000 - 10,000 ฟุต ทำได้แค่ช่วยเสริมการพัฒนาตัวของก้อนเมฆเป้าหมาย พื้นที่ฝุ่นหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่ จ.เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ และพื้นที่ทำการเกษตร อ.แม่จัน จ.เชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลด้านมลพิษจากเว็บไซต์ Airvisual.com พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 10 ของโลกแล้ว ซึ่งมีค่ามลพิษวัดได้ 161 มคก.ต่อ ลบ.ม. สำหรับจุดความร้อนสะสม 25 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. - 19 มี.ค. 62 เกิดจุดความร้อนทั้งหมด 718 จุด มากกว่าปี 61 ที่ผ่านมา จำนวน 346 จุด อำเภอที่ครองแชมป์อันดับ 1 คือ อ.เชียงดาว รองลงมาเป็น อ.แม่แจ่ม, อ.ฮอด และ อ.จอมทอง ตามลำดับ เขตพื้นที่เกิดไฟป่าเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์, ป่าสงวนแห่งชาติ, เขต สปก., เขตชุมชนและอื่นๆ ตามลำดับ
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ออกฉีดพ่นละอองน้ำที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ ขณะที่อำเภอต่างๆ ก็มีการนำรถน้ำออกฉีดพ่นละอองน้ำสร้างความชุ่มชื้นเช่นกัน ซึ่ง ทาง ปภ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยอำเภอ, หน่วยงาน อปท. ได้ร่วมกันนำรถน้ำออกฉีดพ่นละอองน้ำทุกอำเภอ และประสานขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่มีตึกสูงเพื่อให้พ่นละอองน้ำบนตัวอาคาร ซึ่งมีผู้ประกอบการโรงแรมกว่า 50 แห่ง ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาหมอกควันในครั้งนี้เป็นอย่างดี