เพื่ออนาคตของลูก "นิโคล" ไม่หวั่น! ทุ่ม 10 ล้าน ส่ง "น้องทิกเกอร์" เรียนนอก

2019-03-14 13:15:57

เพื่ออนาคตของลูก "นิโคล" ไม่หวั่น! ทุ่ม 10 ล้าน ส่ง "น้องทิกเกอร์" เรียนนอก

Advertisement

ทุ่มกว่า 10 ล้าน “นิโคล เทริโอ” ซับพอร์ท “น้องทิกเกอร์” ให้โดดเด่นที่รัก ลั่น! รักครั้งใหม่ ขอแบบคนน่ารัก พูดความจริง ไม่เน้นหน้าตาแล้ว

หน้าเด็กตลอดกาลสำหรับ คุณแม่คนสวยอย่างสาว “นิโคล เทริโอ” ที่ตอนนี้เจ้าตัวก็ครองตัวเป็นโสดมาโดยตลอด นอกจากนี้ก็ยังเป็นคุณแม่สุดสตรองที่คอยสนับสนุนลูกชายสุดที่รักอย่าง “น้องทิกเกอร์” อยู่ตลอดทั้งเรื่องการเรียน และความชอบส่วนตัวของลูกชาย ล่าสุด สาวนิโคล ก็ได้ควงลูกชายมาเปิดใจผ่านรายการ “คุยแซ่บ Show” ถึงเรื่องราวต่างๆ ว่า…






40 อัพแล้ว มีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองยังไงให้สวยอยู่ตลอดเวาลาขนาดนี้ ?

นิโคล : “คือเราต้องยอมรับว่า อยู่ในวงการมาก็นาน แล้วเราคิดว่าการทำในสิ่งที่เรารัก หรือมีชีวิตชีวา ถึงแม้ว่าบางครั้ง เราจะพักผ่อนไม่เพียงพอบ้าง แต่มันก็ทำให้เราเปล่งปลั่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเอารูปมาเทียบกัน ระหว่างสมัยก่อนกับตอนนี้ คือต้องบอกว่าสมัยก่อนเมคอัพเนี่ยจะเน้นไปทางแป้ง แล้วมันก็จะดูแบบหนาๆ เค้กๆ หน่อย แต่ในสมัยนี้ก็จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น จะเบาหน้ากว่าสมัยก่อนเยอะค่ะ”

ในปีที่ผ่านมาเจอเรื่องเยอะ มีมรสุมหนักที่สุด จริงหรือเปล่า ?

นิโคล : “ค่ะ ก็เอาเป็นว่า ทุกอย่างก็ตามข่าวนั่นแหละค่ะ แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีแล้วค่ะ ตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นแล้วค่ะ”


แล้วคิดว่าจะปิดประตูความรักไหม ?

นิโคล : “คือความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม ความรักเราไม่ควรไปปิดประตูใส่มัน ความรักมีอยู่ทั่วไป อันนี้เรื่องจริงนะคะ คือจะบอกว่ามันมีอยู่ช่วงนึง ที่มันมีเรื่องสดๆ ร้อนๆ เลย แล้วเราก็ไม่อยากพูด ทุกคนก็รู้ด้วยว่าเราไม่อยากพูด และก็คิดว่าจะพยายามไม่พูดต่อไป เพราะมันผ่านไปแล้วค่ะ”

ทัศนคติเรื่องความรักตอนนี้เปลี่ยนไปบ้างไหม ?

นิโคล : “เปลี่ยนนะคะ ก็ยังเชื่อในความรักอยู่ แต่ถามว่าระวังขึ้นไหม ก็ระวังค่ะ แล้วก็จะไม่เชื่อคนง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ คือเราเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อคนง่าย ใครพูดอะไรมาเราก็เชื่อเขา คิดว่ามันคือเรื่องจริงตลอด คือจะไว้ใจคนง่าย แต่ตอนนี้มันก็จะมีกำแพงขึ้นมาหน่อย ก็ต้องคิดเยอะกว่าเดิมค่ะ”


คนที่จะเข้ามาตอนนี้ต้องผ่านอะไรบ้าง ?

นิโคล : “คือจะไม่เชื่อในคำพูดแล้วแหละ เราต้องดูและศึกษาให้มันเยอะๆ เลยค่ะ คิดว่าการกระทำน่าจะสำคัญที่สุด เพราะคำพูดบางทีมันก็แค่คำพูด แต่ว่าการกระทำและเวลามันสามารถพิสูจน์ได้ เพราะฉะนั้นอย่ารีบ มันต้องใช้เวลาในทุกๆ เรื่องค่ะ ก็จะสอนลูกเหมือนกันค่ะ ว่าเวลาโตขึ้น ถ้าเกิดมีแฟน ต้องให้เกียรติผู้หญิงนะ ผู้หญิงเป็นเพศแม่ ต้องดูแลเอาใจใส่อะไรแบบนี้ค่ะ”

พูดถึงลูกชาย หวงมากไหม ?

นิโคล : “ห่วงค่ะ ไม่ใช่หวง เป็นคำตอบที่ถูกต้องและดูดีค่ะ แต่ถ้าถามว่าหวงไหม อาจจะหวงมั้ง เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เราต้องหวงค่ะ”




ถามลูกบ้าง คุณแม่ดุไหม ?

ทิกเกอร์ : “ไม่ดุครับ ไม่เคยดุเสียงดังหรือตีเลย”

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคุณแม่กำลังโกรธอยู่ ?

ทิกเกอร์ : “ก็จะมองเห็นจากในตาครับ”

นิโคล : “มีอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ ที่เราจำได้เลย ตอนเด็กๆ ตอนนั้น iPad เพิ่งออกมาใหม่ๆ แล้วเขาเอาของเพื่อนมาเล่นแล้วทำตก มีรอยบิ่น ตอนนั้นเราโกรธมาก ให้เขาไปอยู่ในมุมแล้วจินตนาการว่ามันมีกรอบ เราก็ให้เขาไปยืนอยู่ในนั้น แล้วเขาก็ไม่ออกมานะ ซึ่งจริงๆ เขาจะออกมาก็ได้ อันนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่หนักสุดค่ะ”



ได้ข่าวว่าเป็นคุณแม่สายเปย์ด้วย ทุ่มไม่อั้นเลยจริงไหม ?

นิโคล : “ต้องบอกว่ามันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นอะไรค่ะ ถ้ามันส่งเสริมสิ่งที่เขาชอบ เช่นตอนนี้ชอบเรื่องดนตรี ก็จะสนับสนุนเต็มที่ค่ะ ให้เขาไปเรียนทุกอาทิตย์ เหมือนเรียนหนังสือเลยค่ะ ตอนนี้ก็ประมาณ 2 ปีกว่าๆ แล้ว”





ตอนนี้ทำงานเก็บเงิน 10 ล้าน เพื่อให้ลูกไปเรียนต่อที่อเมริกา จริงหรือเปล่า ?

นิโคล : “มากกว่านั้นค่ะ คือนั่งกินข้าวกัน แล้วก็ถามเขาว่าโรงเรียนที่เขาอยากเรียนค่าเทอมมันเท่าไหร่นะ แล้วเราก็เห็นว่ามันค่อนข้างแพง แล้วเราก็เอามาคูณ 4 ปีที่จะต้องไปอยู่ ไหนจะค่ากิน ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับหาแม่อีก มันไม่ใช่ 4 ปี จะไม่กลับมาเลยนะ และอะไรอีกต่างๆ นานา อีก รวมๆ ละกันก็ราวๆ 10 ล้านค่ะ อันนี้เฉพาะแค่จบ ป.ตรีนะ ยังไม่รวมถึงด็อกเตอร์เลย คือต้องบอกว่าที่เราคิดคำนวณกันเนี่ย ไม่ใช่ให้ลูกกดดันนะ แต่เราจะบอกว่า ถ้าเขาเก่งและโดดเด่นในสิ่งที่เขาจะเรียน เขาก็อาจจะมีโอกาสได้ทุนจากมหาวิทยาลัยน้อย อาจจะมากน้อยก็แล้วแต่ เค้าก็จะช่วยเราได้ อันนี้คือที่เราวางแผนกันไว้ค่ะ เพราะฉะนั้นก็อยากให้เขาตั้งใจเรียนแหละ”



ถามถึงเหตุผลที่ไม่เคยบอกหน่อย ทำไมถึงตัดสินใจแยกทางกับ “แมว จิระศักดิ์” ในตอนนั้น?

นิโคล : “คือตอนแรกต้องบอกว่าเรามาไลฟ์สไตล์เดียวกัน คือการเป็นนักร้อง แต่พอมาวันหนึ่ง ที่เราต้องเปลี่ยนมาเป็นแม่ คือไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไปในทันที แล้วพี่แมวก็ยังเหมือนเดิม คือการเป็นนักร้อง ก็ผ่านมาสักพัก จนทำให้วันนึงเริ่มรู้สึกว่ามันไม่มาเจอกันแล้ว แล้วก็ทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเราอยู่กันต่อไปมันอาจจะไม่ดีแน่ๆ หรือถ้าเรายังดื้อกันต่อไปบ้านเราอาจจะไม่ร่มเย็นสำหรับลูก เพราะว่ามองกลับไป ตอนที่เราเริ่มต้นในฐานะเพื่อน ตอนนั้นมันดีมากๆ ก็เลยกลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของคนสองคนค่ะ”

ตอนนี้คิดจะมี หรือพร้อมกับความรักครั้งใหม่แล้วหรือยัง?

นิโคล : “ก็ชอบแบบคนน่ารัก ใจดี แล้วก็คนจริง พูดความจริง หน้าตาคงไม่เน้นแล้วแหละค่ะ”






ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @nicole_officialaccount