“สนธิรัตน์” ประกาศ พปชร.เป็นรัฐบาลแน่นอน มั่นใจ “บิ๊กตู่” พาบ้านเมืองสงบ
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณลานกิจกรรม แยกแม่กรณ์ จ.เชียงราย นำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วย นางรัตนา จงสุทธานามณี ผู้สมัครเขต 1 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนเข้าร่วมปราศรัยจำนวนมาก
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การมาจ.เชียงรายในครั้งนี้ได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี และเห็นว่าหลาย 10 ปีที่ผ่านมาเชียงรายยังได้รับความเจริญน้อยกว่าจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ดังนั้นพรรคจึงอาสาตัวเข้ามาทำให้เชียงรายมีการเจริญเติบโตขึ้นและพร้อมจะสานต่อนโยบายรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ยืนยัน พปชร. จะต่อยอดให้เชียงรายเป็นจังหวัดที่เติบโตมากกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอโอกาสพี่น้องประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคที่จะได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะหากเลือกแบบเก่าก็จะได้แบบเก่า แต่หากอยากได้ของใหม่ ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐมาสานต่อในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ประชาชนได้เงิน รวมถึงนโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี เพื่อทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อม มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแกนนำจะนำพาให้บ้านเมืองสงบสุขและสามารถพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้
ขณะที่ นายอนุชา ได้ปราศรัยถึงความยากจนของพี่น้องประชาชนพร้อมที่จะทำให้เกษตรกรสามารถค้าขายได้ ไม่เป็นหนี้ ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐตกผลึกเพื่อช่วยแก้ปัญหา โดยเฉพาะการปลูกข้าว จะเติมเงินให้ 1,500 บาทต่อไร่ นอกจากนี้จะมีโครงการ "มารดาประชารัฐ" เพื่อลูกหลานที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคต คือถ้าลูกหลานตั้งครรภ์ให้มารับเงินบัตรสวัสดิการคนท้อง ซึ่งรัฐจะจ่ายเงิน 3,000 บาท ต่อเดือน ถ้าคลอดบุตรออกมาพรรคจะให้เงินเพิ่มอีก 10,000 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาล หลังจากนั้นในช่วงที่เลี้ยงลูกหลานพรรคก็จะให้อีกเดือนละ 2,000 บาท อีก 6 ปีด้วย ทั้งนี้ พรรค จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน ยืนยันไม่ได้มีการสืบทอดอำนาจ แต่จะนำพาคนไทยหลุดพ้นจากความยากจน และย้ำว่า หากไม่สามารถทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ก็จะเลิกเล่นการเมือง
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรค พปชร. ได้กำหนดนโนบายหลายด้านเพื่อพี่น้องประชาชน พร้อมชี้ให้เห็นว่า ระยะเวลาที่ผ่านมา การที่คนเชียงรายไปสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นรัฐบาลความเจริญของจังหวัดแตกต่างจากเมืองอื่นหรือไม่ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องการเห็นคนไทยตีกันดังนั้นจะต้องกล้าเปลี่ยนเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้