อยากให้ทุกคนเข้าใจและให้อภัย “ปั้นจั่น ปรมะ” ขอโทษประเด็นแฮชแท็กสุดแรง !! ยอมรับเครียดกับกระแสด้านลบที่ได้รับ พร้อมแจง กินหูฉลาม
หลังจากที่ตกเป็นประเด็นของสาวโซเชียลอยู่พักนึง กับแฮชแท็กสุดฮิตติดเทรนด์อย่าง “อยากแปลกไม่แดกคนละครับ” ของนักแสดงหนุ่ม “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ที่เจ้าตัวได้แสดงความคิดเห็นในกรณีที่รายการแข่งทำอาหารชื่อดัง นำปลากระเบนมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร จนกลายเป็นประเด็นฮอตขึ้นมาทันทีกับแฮชแท็กสุดแรงของนักแสดงหนุ่ม
ล่าสุด หนุ่มปั้นจั่น ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า…
“หลังจากที่โพสต์ไปแล้วเกิดประเด็นในโซเชียลก็ยังไม่มีโอกาสพูดนะครับ ปั้นจั่นเองก็ไม่ได้เขียนตอบอะไรใคร เพราะรู้ว่าต้องมีงานเลยรอสัมภาษณ์ทีเดียวเลย ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษแฮชแท็กที่ทำให้กระทบต่อความรู้สึกของแฟนๆ รายการ ผู้แข่งขัน และรวมไปถึงคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย
ตอนที่เห็นกระแสข่าวก็ตกใจ ผมพูดตรงๆ เราอยู่ในวงการเดียวกัน ผมทราบดีเรื่องมารยาท ผมทำงานกับทุกที่ และผมก็รู้จักกับผู้ใหญ่ในสาขาต่างๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะส่งผลกระทบ ที่สำคัญมันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับตัวผมคนเดียว แต่ส่งไปถึงคนที่อยู่รอบตัวผม ยังไงผมต้องขอโทษ และขอให้ทุกคนเข้าใจผมด้วยในสิ่งที่ผมทำไป ให้อภัยผมด้วย และไม่อยากให้ไปถามหรือหาอะไรก็แล้วแต่กับคนอื่น ถ้ามีอะไร ขอให้มาที่ผมแล้วกัน ให้ผมเป็นคนพูด ให้ผมเป็นคนอธิบาย เพราะคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับการที่ผมลงครั้งนี้”
ซึ่งหลังจากที่หนุ่มปั้นจั่น ก็ได้พูดถึงประเด็นที่ว่า มีคนไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ที่เจ้าตัวเคยเป็นพิธีกร และพาไปชิมหูฉลามถึงรายการว่า… “ที่ออกรายการไปนั้น เป็นเทปที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนปั้นจั่นเองรับหน้าที่เป็นเพียงคนบอกเล่า ไม่ได้ชิม แต่ถามว่ากินมั้ย แต่ก่อนก็กินแต่ตอนนี้หยุดกินไปแล้ว สำหรับตัวผมเองก็ไม่ได้กล่าวโทษใครทั้งนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะสื่อให้ใครเสียความรู้สึก แต่สำหรับตัวผมเองที่เป็นคนรักสัตว์แล้ว พอพูดถึงเรื่องนี้เราก็จะรู้สึกสะเทือนใจและกระทบจิตใจค่อนข้างมาก” นอกจากนี้ยังเผยถึงความรู้สึกที่มีต่อกระแสด้านลบ ที่ออกมาอีกว่า… “จะบอกว่าไม่เครียดเลยก็ไม่ได้สำหรับทุกคอมเมนต์ ก็มีเครียดนะ มีหลายคนบอกไม่ให้อ่านคอมเมนต์เลย คือผมต้องอ่านเพื่อให้ผมจำแล้วนำมาเป็นบทเรียน ถามว่าเป็นแบบนี้แล้วจะพักโซเชียลไปเลยมั้ย ก็คงไม่ครับ คงใช้ชีวิตแบบปกติ จะบอกตรงๆ ว่า สิ่งที่ผมโพสต์จะไม่ลบอะไรทั้งนั้น เพราะรู้สึกว่าอยากเก็บไว้เป็นบทเรียนให้ตัวเอง” ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @punjanprama
