“ชัชชาติ”ปราศรัยขอคะแนนเสียงชาวเชียงราย ระบุเผด็จการเอาเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ ขอประชาชนเลือก พท.มาทำให้ประชาธิปไตยกินได้
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้แก่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร นายปลอดภัย สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พล.ต.อ.วิรุฬ พื้นแสน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และนายชุมสาย ศรียาภัย ขึ้นเวทีปราศรัยที่. อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมีประชาชนเข้ามาร่วมฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง ทั้งนี้นายพานทองแท้ได้ขึ้นเวทีทักทายและกระโดดลงเวทีเพื่อกอดและถ่ายรูปร่วมกับประชาชน
นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อปี 2556 ตนมาเปิดสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงของ ตนเห็นว่าเมืองเชียงของเป็นเมืองโลจิสติกสำคัญที่เชื่อมเชียงแสน และแม่สาย อีกทั้งในอนาคตเชียงรายจะเป็นเมืองหน้าด่าน ส่งออกพืชผลการเกษตรไปขายที่ประเทศจีนได้โดยตรง พรรคเพื่อไทยจึงคิดโครงการที่จะสร้างทางรถไฟเชื่อมโยง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ-เชียงแสน และผลักดันที่จะเชื่อมโยงไปลาวและต่างประเทศ แต่ถูกรัฐประหารเสียก่อน ครั้งนี้จึงตั้งใจว่าจะกลับมาทำต่อหากได้เป็นรัฐบาล
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งกันระหว่างเผด็จการและประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย แต่เผด็จการเอาการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือเพื่อเข้ามาอยู่ในอำนาจ ทั้งที่ยึดอำนาจเข้ามา ดังนั้นพี่น้องประชาชนต้องเลือกให้ดีและเลือกเพื่อตัวเอง เพราะปัญหาสำคัญของประชาชนตอนนี้มีอยู่ 3 ข้อ คือ เรื่องปากท้อง ยาเสพติด และเรื่องที่สาม คือ 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีตัวแทนประชาชน ไม่มีคนที่สามารถสะท้อนปัญหาของประชาชนได้อย่างตรงจุด แต่ถ้ามีการเลือกตั้ง มีผู้แทนเป็นปากเสียงในรัฐสภา ช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน มาทำให้ประชาธิปไตยกินได้ พร้อมย้ำว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาแล้วไม่ดูแลประชาชน 4ปีต่อไปก็ไม่มีใครเลือก แต่ที่ผ่านมาเพื่อไทยทำดีมาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เศรษฐกิจไม่ดี เพราะรัฐบาลชุดนี้หาตลาดไม่เป็น ไม่ดูแลประชาชน ดูแลแต่นายทุนใหญ่ เช่น บัตรคนจนที่ประชาชนใช้รูดซื้อของแล้วรายได้เข้าไปที่นายทุน แต่ไม่ให้กดเงินสดไปใช้หมุนเวียนในตลาดจึงไม่ช่วยแก้ไขให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะคนออกนโยบายทำไม่เป็น อีกทั้งราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำกระทบเศรษฐกิจภาพรวมในประเทศ รวมทั้ง กทม. เพราะเกษตรกรเป็นกำลังซื้อสำคัญภายในประเทศ ดังนั้นทางแก้คือต้องช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 6 ล้านครัวเรือน ให้เข้มแข็ง เพราะทุกข์ของเกษตรกรคือทุกข์ของแผ่นดิน โดยการปรับโครงสร้างหนี้ เติมเงินด้วยสถาบันการเงินระดับย่อย ลดภาษี โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลเพื่อบดภาระค่าใช้จ่าย และเก็บภาษีระดับบนอย่างยุติธรรมเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือคนตัวเล็ก และสุดท้ายคือสร้างเศรษฐีใหม่จากการเพิ่มช่องทางการทำมาหากิน ขอให้ประชาชนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยทำได้ เพราะทำมาแล้ว 24 มี.ค.นี้ต้องออกไปเลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีคนเอาเงินมาให้ประชาชนแลกกับการเลือกพรรคนั้นๆ นายชัชชาติบอกว่าจะรับหรือไม่รับแล้วแต่เรา เขาเอาเงินมาให้ 100 บาท เพื่อที่จะโกงให้ประเทศชาติเสียเป็นหมื่นเป็นแสนในอนาคตมันไม่คุ้มกัน ดังนั้นต้องเลือกรัฐบาลที่เก่งเศรษฐกิจ เพราะจะสร้างรายได้ให้กลับมาอีกมากมาย
ทั้งนี้นายชัชชาติยังกล่าวทิ้งท้ายว่าในการเลือกตั้งหากพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเมือง แต่ถ้าประชาชนจะต้องยากจนไปตลอด หรือเศรษฐกิจแย่ไปตลอด พี่น้องทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิกำหนดอนาคตของตัวเองและลูกหลาน
ด้านนายชัยเกษม กล่าวว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมและกฎหมายมีส่วนทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนไม่ดีเช่นกัน เพราะกฎหมายที่ออกโดยคนที่ไม่ได้เป็นผู้แทนของประชาชนจริงๆ จะไม่เข้าใจปัญหา และกฎหมายเหล่านั้นก็ไม่เอื้อประโยชน์ให้ทำมาหากิน อีกทั้งกฎหมายหลายฉบับยังควบคุมสิทธิเสรีภาพและการดำรงชีวิตของประชาชน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะต้องหาทางแก้ไขให้กฎหมายไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย โดยเฉพาะกับประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ รวมทั้งการขอใบอนุญาตจะต้องง่าย รวดเร็ว ลดขั้นตอนให้น้อยที่สุด มิฉะนั้นจะไม่ทันกิน
นายชัยเกษมยังแสดงความคิดเห็นว่า นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม หากยังดำรงตำแหน่งต่อไปเชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะเปลี่ยนแปลงได้ยาก การพูดของนายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่สามารถเชื่อถือได้ เช่น มักจะพูดว่าให้ทุกฝ่ายทำตามกฎหมาย แต่ตนเองเข้ามาด้วยการปฏิวัติ ฉีกกฎหมาย บอกกับต่างประเทศว่าจะเลือกตั้ง แต่ก็เลื่อนมา 5 ครั้ง แล้วคราวนี้จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สัญญาว่าจะทำโน่นนี่ให้ประชาชนเลือก ตนมองว่าไม่น่าเชื่อถือ
ขณะที่นายสมชาย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าขายของไม่ได้ เสรีภาพก็ถดถอย แต่หากประชาชนเลือกเพื่อไทยที่เคยมีประสบการณ์แก้ปัญหามาแล้ว จะยกฐานะของประชาชนและพาประเทศชาติออกจากความมืดมนไปสู่แสงสว่าง การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญเพราะเป็นการกำหนดอนาคตของประเทศชาติ ช่วงเวลาที่ผ่านมาประชาชนได้ลองผิดลองถูกกันมาแล้ว ครั้งนี้จึงขอให้ทุกคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะร่วมกันพลิกฟื้นประชาธิปไตยที่หายไป พี่น้องประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจต้องเอากลับคืนมาให้ได้ ทำให้กลับมาเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ ไม่ใช่หลอกลวง แล้วมีแต่การสืบทอดอำนาจ
“ขอบคุณพี่น้องประชาชน มั่นใจว่าเราจะช่วยกันพลิกฟื้นประเทศไทยให้กลับคืนมา เราเคยเป็นผู้นำที่เอาพรรคการเมืองที่มีคุณภาพมาแล้ว เอาเพื่อไทยที่มีคุณภาพกลับคืนมา ทำให้ประชาธิปไตยกลับมากินได้เหมือนเดิม”นายสมชาย กล่าว
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ใน จ.เชียงรายและพะเยา ได้แก่ นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ เขต 2 หมายเลข 10, นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เขต 3 หมายเลข 12, นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ เขต 4 หมายเลข 9, นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เขต 5 หมายเลข 9, นายอิทธิเดช แก้วหลวง เขต 6 หมายเลย 12, น.ส.ละออง ติยะไพรัช เขต 7 หมายเลข 7 และนายจำนงค์ ไชยมงคล ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ