ทำแผนสามีเฒ่าหึงโหดบีบคอฆ่าเมีย สารภาพสิ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย..ระบุเมียมีชู้กับชายอื่น นำโรคหนองในมาติด ก่อนญาติของชู้ร้องผู้ใหญ่ว่าถูกกล่าวหาต้องเสียเงิน 5,000 บาท ก่อนจะบีบคอขู่ให้เมียสารภาพ หลังจากเมียสาวสารภาพยิ่งโมโหบีบคอตายคามือและนำไปฝัง
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้รับ แจ้ง จาก เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ว่ามีคนร้ายเดินทางไปมอบตัว คือ นายสมเดช แก้วสว่าง อายุ 62 ปี อยู่บ้านทุ่งรูง ม.6 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมกับบอกสาเหตุรายละเอียดที่ตนเองได้กระทำลงไปว่า ตนเองบีบคอฆ่าภรรยาแล้วฝังดินไว้ที่สระน้ำที่กำลังจะแห้ง ท้ายหมู่บ้านทุ่งรูง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ
หลังจากรับแจ้งเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ โดย พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธณศีขรภูมิ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานหน่วยงานทั้งอาสากู้ชีพ อาสากู้ภัย ในพื้นที่ ต.ผักไหม ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆในพื้นที่ใกล้เคียง ที่เกิดเหตุ เดินทางเข้าตรวจสอบ ตามพิกัดที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งพบสระน้ำขนาดใหญ่ ความลึกถึงก้นสระน้ำประสาน 3 เมตร และน้ำกำลังแห้ง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 700 เมตร ก้นสระน้ำพบหน้าดินคล้ายๆ กับมีการเพิ่งขุดและฝังกลบสิ่งของบางอย่าง
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20190310103859885.jpg)
จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย และอาสากู้ชีพ กู้ภัยสุรินทร์จุดศีขรภูมิ และ อาสาสมาคม วีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุดศรีณรงค์ ได้ทำการขุด จนกระทั่งพบศพถูกฝังลึก ประมาณ 1 เมตร จากนั้น ได้ นำศพขึ้นมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นางเมา แก้วสว่าง อายุ 44 ปี เป็นคนบ้านขนาดมอญ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยแพทย์เวร รพ.ศีขรภูมิ ตรวจพลิกศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุรินทร์ เข้าเก็บหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ นำถุงห่อศพ นำศพส่ง รพ.สุรินทร์เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าขุดค้นหาศพ บริเวณใต้ก้นสระน้ำ ปรากฏว่าได้มีประชาชน จำนวนมาก ที่ทราบข่าวพากันเดินทางมายืนมุงดูการค้นหาศพเป็นจำนวนมาก ต่างก็พากันวิพากย์วิจารณ์ถึงความโหดร้ายใจเย็นของคนร้าย ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต เนื่องจากเป็นที่สะเทือนขวัญของประชาชนในพื้นที่
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20190310103907457.jpg)
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัว นาย สมเดช แก้วสว่าง อายุ 62 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสามีเฒ่าผู้ก่อคดีหึงโหด ฆ่าฝังดินภรรยาสาว มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้นำตัวผู้ต้องหา ไปกราบขอขมาแม่ของผู้ตาย ซึ่งมีอายุมากแล้ว จากนั้นได้ไปกราบขอขมาศพ นางเมา แก้วสว่าง ภรรยาสาว ด้วยสีหน้านิ่งเฉย โดยมีญาติพี่น้องที่มาร่วมงานต่างก็พากันดูเหตุการณ์ อยู่ห่างๆ จากนั้นได้นำผู้ต้องหา ไปที่บ้านที่ลงมือก่อเหตุฆ่าบีบคอนางเมา จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหาเอง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านแม่ของผู้ตายมากนัก โดยมีลูกสาวของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นลูกกับเมียคนก่อน ก่อนที่จะมาได้กับนางเมามาดูแล ผู้เป็นพ่ออย่างใกล้ชิด
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20190310103915285.jpg)
หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านขนาดมอญ แล้วก็ได้นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หนองน้ำบ้านทุ่งรูง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวการทำแผนประกอบคำรับสารภาพมาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด การทำแผนเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย นายสมเดช ผู้ต้องหา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านตนเอง และเดินทางมากับตำรวจ พร้อมชี้จุดขับรถนำศพ นางเมามาฝังดินใต้ก้นสระน้ำ ที่กำลังแห้งขอด ด้วยท่าทางและสีหน้านิ่งเฉย เล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ทำลงไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังอย่างใจเย็น ก่อนเดินไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ โดยมี พ.ต.ท.สมพงษ์ แก่นจักษ์ รอง ผกก. สภ.ศีขรภูมิ และ พ.ต.ต.วิทวัส แก้วเหลา พนักงานสอบสวนเวร ควบคุมการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20190310103956795.jpg)
ผู้ต้องหาได้ให้เล่าเหตุการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ฟังว่า สาเหตุมาจากที่เมียโกหกตนเองว่าไม่ได้เป็นชู้กับใคร ผู้ต้องหาจับได้ว่าเมียไปมีชู้กับคนชื่อเฮง (นามสมมติ) เพราะตนเองได้รับเชื้อโรค มาติด จึงโมโหเห็นว่าเมียโกหกตนเอง และในขณะเดียวกันทางญาติของนายเฮง ได้ยินตนเองกล่าวหาลูกเขามาเป็นชู้กับเมียตนเอง ก็ไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เรียกค่าเสียหายปรับตนเองไป 5,000 บาท ด้วยความโมโหก็เลยบีบคอบังคับให้สารภาพ เมียก็เลยบอกว่ามีชู้จริง ตนเองจึงยิ่งโมโหหนักเลยบีบคอจนตายคามือ จากนั้นก็นำศพมาฝังบริเวณดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหาจากนั้น จนท.ตำรวจจึงรีบควบคุมผู้ต้องหาขึ้นรถตู้กลับ ที่ สภ.ศีขรภูมิ ทันที โดยที่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น