"ครูจอมทรัพย์" นอนคุกต่อ เงินไม่พอวางประกันตัว

2019-03-08 11:10:30

"ครูจอมทรัพย์" นอนคุกต่อ เงินไม่พอวางประกันตัว

Advertisement

“ครูจอมทรัพย์” นอนคุกต่อ เงินไม่พอวางประกัน 8 แสนบาท ปล่อยตัวแค่ ”ครูอ๋อง” ด้านทนายขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา ยืนยันขอใช้สิทธิทางกฎหมายถึงฎีกา


เมื่อช่วงเย็น วันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำกลาง จ.นครพนม นายประทีป นวลเศรษฐ อายุ 53 ปี ทนายครูจอมทรัพย์ ได้นำเอกสารหลักฐาน มาติดต่อประสานขอรับตัว นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง จำเลยในคดีครูจอมทรัพย์ ปั้นพยานเท็จ หลังศาลจังหวัดนครพนมตัดสินจำคุก 7 ปี 9 เดือน ฐานความผิดในคดีสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยทางศาลจังหวัดนครพนม ได้เสนอศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณา กรณีทนายได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอประกันตัว ปล่อยตัวชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังมีคำตัดสินของศาลจังหวัดนครพนมและเมื่อเวลา 16.00 น. ทางศาลอุทธรณ์ ภาค 4 มีคำสั่งอนุญาต ให้ นายสิรุยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ประกันตัวได้ รวมถึงครูจอมทรัพย์หลังถูกตัดสินจำคุก 8 ปี

นายประทีป กล่าวว่า หลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้ง 2 ประกันตัว แต่สามารถทำเรื่องขอปล่อยตัวได้เพียงนายสุริยา ซึ่งทางศาลได้กำหนดตั้งวงเงินประกัน ไว้ คนละ 8 แสนบาท โดยทางทนายความได้นำเงินสด ไปยื่นวางประกันต่อศาล ทำเรื่องขอปล่อยตัว ครูอ๋อง เป็นที่เรียบร้อย ส่วนครูจอมทรัพย์ ยังติดปัญหาไม่สามารถขอปล่อยตัวได้ เนื่องจากไม่มีเงินประกันวางต่อศาลจำนวน 8 แสนบาท มีเพียง 2 แสนบาท ขาดอีก 6 แสน ทำให้ต้องอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมต่ออีก จนกว่าจะสามารถหาเงินมาวางประกันตัวครบและรอขั้นตอนการพิจารณาตัดสินของศาลอุทธรณ์ โดยก่อนนี้ทางครูจอมทรัพย์ ได้ถูกฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ในช่วงรอการพิจารณาไต่สวนของศาล หลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกคำร้องการรื้อฟื้นคดี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2560 และถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีใหม่ เกี่ยวกับสร้างพยานหลักฐานเท็จและได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2561 รวมระยะเวลาอยู่ในเรือนจำกว่า 8 เดือน


นายประทีป กล่าวต่อว่า กระทั่งมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก ในวันที่ 6 มี.ค. 2562 และกลับไปเข้าเรือนจำอีกรอบ รอหลักทรัพย์เงินสด 8 แสนบาท ค้ำประกัน ขณะนี้ต้องรอญาติ หาเงินมาวางประกัน อย่างไรก็ตามฝากขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 4 รวมถึงศาลจังหวัดนครพนม ที่ให้ความเมตตาทางจำเลยได้ใช้สิทธิทางกฎหมายและจะมีการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายถึงที่สุดคือชั้นฎีกา ส่วนผลจะออกมาอย่างไรยินดีน้อมรับ