คุมเข้มศาล รธน.อ่านคำวินิจฉัยคดียุบ ทษช.

2019-03-07 12:20:36

คุมเข้มศาล รธน.อ่านคำวินิจฉัยคดียุบ ทษช.

Advertisement

ตำรวจอารักขาเข้มศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณี กกต.ขอให้มีคำสั่งยุบ ทษช. เผยความเป็นไปได้ 2 แนวทาง หากยุบพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค 14 คน ถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งตลอดชีวิต

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย เรื่อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในเวลา 15.00 น. ว่า ได้มีตำรวจนครบาลรวม 8 กองร้อย กระจายกำลังทั้งด้านในและด้านนอก บริเวณที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยแบ่งพื้นที่ ดูแลรักษาความปลอดภัย ออกเป็น 3 ส่วน คือพื้นที่ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน ซึ่งพื้นที่ชั้นใน เป็นเขตอำนาจศาล มีการติดประกาศห้ามชุมนุมในรัศมี 50 เมตร รอบที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ที่จะเข้ามาในพื้นที่จะต้อง ผ่านเครื่องตรวจสแกนอาวุธ และต้องมีการแลกบัตรทั้งในส่วนของประชาชนและสื่อมวลชน

ขณะที่ในห้องพิจารณาคดี ศาลอนุญาตให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝั่ง เข้าไปฟังคำพิพากษาได้ฝั่งละ 16 คน และจัดห้องให้สื่อมวลชนและประชาชน ฟังคำพิพากษาผ่านการถ่ายทอดภาพทางโทรทัศน์ ซึ่งมีการถ่ายทอดภาพจากกล้องวงจรปิด 5 จุด อย่างไรก็ตามยังไม่พบว่ามีประชาชนที่เดินทางมาเพื่อรอให้กำลังใจ

สำหรับลำดับขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติใน เวลา 13.30 น. และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 15.00 น. ซึ่งในส่วนของคำวินิจฉัยของศาล เป็นไปได้ 2 แนวทางคือ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินไม่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ พรรคสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมือง รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไปตามปกติ เพียงแต่ไม่มีชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเท่านั้น และอีกแนวทางหนึ่ง คือ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิน ยุบพรรคไทยรักษาชาติ จะส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทั้งระบบแบ่งเขต ที่ส่งสมัคร 176 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 108 คน หากใครกาเบอร์ของผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติจะถือเป็นบัตรเสีย นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 14 คน จะถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งตลอดชีวิตด้วย ในส่วนของแกนนำพรรคไทยรักษาชาติจะมีเดินทางมาฟังคำวินิจฉัยทั้งหมด 6 คนโดยจะออกเดินทางจากที่ทำการพรรคในช่วงบ่าย

ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ได้เดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำคำร้องและสำเนาคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ไม่รับคำฟ้องกรณีที่นายเรืองไกรยื่นฟ้อง กกต. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนของ กกต. และขอให้เพิกถอนมติของ กกต.ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่เสนอความเห็นยุบพรรคไทยรักษาชาติ นำมายื่นต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ที่มีคำสั่ง ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออก