“จตุพร” ถาม พปชร.ไม่ได้ ส.ส.อันดับ 1 กล้าจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

2019-03-06 13:30:33

“จตุพร” ถาม พปชร.ไม่ได้ ส.ส.อันดับ 1 กล้าจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

Advertisement

“จตุพร” หยาม พปชร. ยกเลิกแผนให้ “บิ๊กตู่” ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงประเมินแล้วว่าไม่เกิดประโยชน์ ถาม พปชร.ไม่ได้ ส.ส. เป็นอันดับ 1 จะกล้าจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

เมื่อวันที่ 6 มี.คง พรรคเพื่อชาติ นำโดย นายอารี ไกรนรา ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และคณะกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรค นำคณะลงพื้น ช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อชาติหาเสียง 10 เขต จ.ขอนแก่น โดยในช่วงเช้าเวทีแรกจัดปราศรัย ที่ บึงทามจั๊กจั่น เทศบาลตำบลสีชมพู อำเภอสีชมพู ทามกลางการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก

นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่ต้องทำและผูกพันอยู่ 3 เรื่อง คือ การฟื้นประเทศไทย สร้างประชาธิปไตย และก้าวไปด้วยกัน ดังนั้นประเทศไทยจะฟื้นจากความยากจนไม่ได้หากประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งการเมืองและเศรษฐกิจเป็นของคู่กัน 5 ปีนี้พิสูจน์แล้ว ถ้าการเมืองเป็นเผด็จการ ประชาชนเกิดความยากจนแสนสาหัส ประเทศเสียหาย ซึ่งระบบเผด็จการนี้ก็แปลงร่างมาเป็นนักบุญ เช่น เผด็จการทหารของประเทศไทย ที่ทำบัตรคนจน หรือรูปแบบอื่นๆ เพื่อบอกว่านี่คือแนวทางการแก้ไขปัญหาชาติ ทั้งที่รากเง้าปัญหาของความจน เกิดจากบ้านเมืองเป็นเผด็จการ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของพรรคเพื่อชาติคือ พาบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น นักท่องเที่ยว นักลงทุนต่างชาติก็จะมาลงทุนที่บ้านเรา


นายจตุพร กล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะไปปราศรัยทุกแห่งเหมือนว่าจะมีประชาชนมาร่วม แต่ทุกคนในวงการเมืองก็รู้ว่า ที่มาของประชาชนทุกคนว่ามาด้วยเหตุผลอะไร ใช้กลไกอะไรบ้าง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ตบตาคนอื่นได้แต่ตบตาคนการเมืองด้วยกันไม่ได้ ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐยกเลิกแผนที่จะนำ พล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยปราศรัยหาเสียงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ตนเชื่อว่ามีการประเมินสถานการณ์อย่างดีแล้วว่าการปราศรัยแม้ว่าจะมีคนมาจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนนั้น จะไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะเมื่อประชาชนไม่ได้มาด้วยจิตใจและศรัทธา ก็ไม่มีประโยชน์อันใด

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ ส.ส.เป็นอันดับหนึ่ง คิดว่า พรรคพลังประชารัฐ จะกล้าชิงตั้งรัฐบาลก่อนพรรคที่ได้เป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ และคิดว่าพอถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลจริงๆ พรรคการเมืองตัวแปรต่างๆ จะมีจุดยืนอย่างไร นั้น ต้องขออธิบายเรื่องหลักคุณธรรม เพราะการยึดอำนาจก็ถือเป็นการละเมิดคุณธรรม จริยธรรมทางการเมืองขั้นสูงสุด ทางการเมืองทุกคนรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีทางได้อันดับหนึ่ง ซึ่งถ้ามั่นใจได้อันดับหนึ่งคงไม่มีการออกแบบให้พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้ง ส.ว. 250 คน เพราะฉะนั้นอย่าถามหาความชอบธรรม ว่าหากไม่ได้ลำดับหนึ่งแล้วจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะมีความชอบธรรมหรือไม่ ซึ่งความจริงไม่ชอบธรรมมาตั้งแต่ต้น และเชื่อมั่นว่าต่อไปก็จะไม่ชอบธรรม ทั้งนี้ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์พรรคตัวแปรอื่นๆซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเหล่านี้ด้วย เพราะทางการเมืองทางเดินมันแคบ รู้ไว้เลยว่า ความเป็นธรรมไม่เคยมีในรัฐบาลเผด็จการ