แม่ช็อกลูกถูกวิสามัญ ไม่เชื่อต่อสู้ ตร.

2019-03-04 16:25:14

แม่ช็อกลูกถูกวิสามัญ ไม่เชื่อต่อสู้ ตร.

Advertisement

แม่คนร้ายชิงเงิน 7.2 ล้านรถขนเงินจนถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต เข้ารับศพที่นิติเวช รพ.ศิริราช ไม่เชื่อลูกชายจะต่อสู้ตำรวจ

จากกรณี ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ล้อมจับคนร้ายจี้รถขนเงิน ย่านซอยทวีวัฒนา 1 แต่คนร้ายไหวตัวทันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ก่อนชักปืนยิงต่อสู้ และถูกเจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับกระสุนเจาะอกเสียชีวิตคาที่


เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุพัตรา เหนี่ยวรั้งใจ มารดาพร้อมแฟนสาวของนายทักษ์ดนัย เหนี่ยวรั้งใจ หรือ กอล์ฟ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ เงินสด 7.2 ล้านบาท จากพนักงานรถขนเงิน บริษัท BRINKS เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เดินทางมารับศพของนายทักษ์ดนัยที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ภายหลังถูกตำรวจวิสามัญเพราะยิงต่อสู้ขัดขืนการจับกุม

นางสุพัตรา กล่าวว่า มีลูกชาย 2 คน นายทักษ์ดนัยเป็นคนโต อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว 4 คน มีตน ลูกชายคนเล็ก นายทักษ์ดนัยและแฟนสาว ซึ่งนายทักษ์ดนัยเป็นคนนิสัยดี รักครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้านมาตลอด ภายหลังมีการจับกุมชายอีกคนและระบุว่าร่วมก่อเหตุกับลูกชาย ตนก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกเลย จนกระทั่งเมื่อเช้ามืดตำรวจโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกวิสามัญเพราะต่อสู้การจับกุม


นางสุพัตรา กล่าวต่อว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายก่อเหตุและส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนก่อเหตุ เพราะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาและบ้านที่เพิ่งซื้อและอาศัยมากว่า 1 ปี เป็นการนำเงินเก็บของตนกว่า 20 ปี รวมเงินเก็บของบุตรชายที่ทำงานขับรถส่งของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ และเงินที่ลูกชายอ้างว่าถูกลอตเตอรี่จำนวน 200,000 บาทมาซื้อ และยืนยันว่าไม่ได้นำเงินจากการกระทำผิดกฎหมายมาซื้อแน่นอน ส่วนลูกชายจะเคยทำงานบริษัทรถขนเงินหรือไม่ ตนก็จำไม่ได้

ทั้งนี้นางสุพัตราร้องไห้อย่างหนักพร้อมตะโกนว่า จะขอความยุติธรรมให้ลูก ยืนยันว่าไม่ยอมเด็ดขาด ไม่เชื่อว่าลูกชายจะต่อสู้จนถูกวิสามัญ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุและพยายามปกปิดข้อมูลพร้อมระบุว่า จากที่ดูข่าว ตำรวจพบปืนที่อ้างว่าลูกชายนำไปก่อเหตุและทิ้งแล้ว ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันไม่เชื่อว่าลูกชายจะหาปืนกระบอกใหม่ได้ทัน หลังจากนี้จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมและหากเป็นไปได้จะขอให้พิสูจน์ศพลูกชายอีกครั้ง