ดิ้นรนร้องเพลงบนรถเข็น “ชาย เมืองสิงห์” ต่อสู้ชั่วชีวิตไม่เคยคิดท้อ !! (มีคลิป)

2019-03-04 13:35:15

ดิ้นรนร้องเพลงบนรถเข็น “ชาย เมืองสิงห์” ต่อสู้ชั่วชีวิตไม่เคยคิดท้อ !! (มีคลิป)

Advertisement

ไม่ว่าโชคชะตาจะนำพาอุปสรรคพร้อมกับความยากลำบากเข้ามาถาโถมชีวิตสักเพียงไหน แต่ด้วยหัวใจยอดนักสู้ และประสบการณ์ที่สั่งสมมา เขาผู้นี้จึงไม่เคยคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องพังทลาย "ชาย เมืองสิงห์" นักร้องหนึ่งเดียวในตำนานที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงคอลูกทุ่งทั้งหลาย ถึงแม้คุณอาถูกโรคภัยคุกคามจนไม่สามารถลุกเดินได้ตามต้องการอีกต่อไป แต่ด้วยพลังใจที่มีคุณอาก็ยังตระเวนรับงานร้องเพลงบนรถเข็นเก่าๆ คันหนึ่งเพื่อให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกัน...



ล่าสุด "ชาย เมืองสิงห์" ได้มาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และนุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร






ตอนนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง ?


อาชาย : ก็ปกตินะ ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะว่ามะเร็งไม่มี เบาหวานไม่มี ความดันก็ขึ้นๆลงๆ วันไหนที่ไปหน้าเวทีแฟนเพลงให้มาลัยเยอะๆ ความดันมันก็ลดลง (หัวเราะ)

มีรายได้มาจากงานเพลงก็เยอะ ทำไมถึงยังมีหนี้สิน ?
อาชาย : เมื่อก่อนนี้สมัยเข้าวงการแรกๆ ค่าตัวจะไม่เกิน 30 บาทต่องานนะ แล้วก็ผ่านมา มีเพลงดังช่วงปี 2505-2511 ค่าตัวจะขึ้นมาอยู่ที่ 80 บาท แต่ก็มีค่าตัว 300 บาท อันนี้งานอยู่เชียงใหม่นะ ไกลเหลือเกิน เรียกว่าค่าตัวน้อยมาก แล้วก็ค่อยไต่ระดับไปเรื่อยๆ





เห็นว่านักร้องดังสมัยก่อนห้ามมีแฟนจริงหรือเปล่า ?
อาชาย : ใช่ แม้กระทั่งใครที่เป็นผัวเมียกันแล้ว เวลาไปเดินสายเนี่ย ยังต้องแยกห้องนอนกันเลย แล้วก็จะนั่งรวมกันไม่ได้ ถ้าเกิดว่ามีคนรู้คะแนนมันก็จะตก ต้องรองานเลิกแล้วค่อยไปแอบกันทีหลัง มันจะไม่เหมือนกับสมัยนี้ สมัยก่อนมันจะมีรถบัสคนละคัน แล้วก็จะมีชื่อติด คนก็จะตามไปดู จะไม่มีแบบที่กรี๊ดแบบสมัยนี้นะ จะมีมานั่งดู แล้วก็เอามาลัยมามอบแค่นั้นเอง คนดูเขาก็จะมากับพ่อกับแม่บ้างอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดว่านักร้องจะไปทำเจ้าชู้หรือไอ้นู่นไอ้นี่ ไม่ได้เลยนะ ถ้าเกิดว่าเขาชอบเราเขาก็จะมีจดหมายมา แล้วนักร้องก็เขียนตอบไป

การได้รางวัลศิลปินแห่งชาติ ภูมิใจขนาดไหน ?
อาชาย : นึกไม่ถึงแล้วก็ไม่เคยคิดมาก่อนด้วย เพราะว่ารางวัลอย่างอื่น อาไม่เคยได้เลย คือมันต้องส่งไป แล้วเพลงของอาคือเขาแยกประเภทไม่ถูก มันมีทั้งไทย มีทั้งสากล ปนกันไปหมด เอาอย่างละนิดอย่างละหน่อยมารวมกัน เลยกลายเป็นเพลงที่ไม่รู้ว่าจะสไตล์ไหน





ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้ยังไง ?
อาชาย : คือไปทำงานในต่างประเทศ เรียกว่าทำงานหนัก ก็อาจจะมีส่วนบ้าง เพราะว่าอากาศที่นู่นค่อนข้างต่างกับบ้านเรา แล้วก็เดินทางไปมาบ่อยๆ อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการดื่ม แล้วการสูบบุหรี่ อันนี้คือสูบมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่อยู่บ้านนอก ส่วนเรื่องการดื่มเหล้าสมัยเด็กๆไม่ค่อยได้ดื่มหรอก แต่มันมีช่วงเดินสายทำวงอันนี้ก็มีดื่มบ้าง เพราะครอบครัวมีปัญหา พ่อก็เป็นมะเร็งเสียชีวิตด้วยอะไรด้วย

อยากให้เล่าวินาทีที่ล้มป่วยให้ฟังหน่อย วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
อาชาย : วันนั้นก็วิ่งงานหลายงานอยู่เหมือนกัน จนมาจบที่งานของสรพงษ์ ชาตรี ตอนนั้นมันเหนื่อยมาก เราก็ร้องเพลงเสร็จแล้วก็นั่งธรรมดาๆเลย วันนั้นสนุกกับเพลง "เมียพี่มีชู้" นี่แหละ เรียกว่าเราก็สนุกเกือบตกเวทีเหมือนกัน เสร็จงานก็ไม่มีอาการอะไรนะ ก็ขึ้นรถตู้นั่งรถกลับบ้าน ระหว่างทางก็หลับเพราะว่าเหนื่อยมาก จนมาถึงบ้าน ตื่นก็ตกใจทำไมร่างกายซีกซ้ายไม่มีความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาล มาคิดได้ตอนหลังว่าถ้าไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะไม่หนักขนาดนี้





แล้วตอนนั้นพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
อาชาย : ก็ตกใจนะ คือตั้งแต่อยู่มาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย เพราะว่าอาเป็นทหารเสนารักษ์ ค่ายลพบุรีมาก่อน แต่พอมาเกิดกับตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าโรคอะไร อย่างมากที่เราจะเป็นก็คือต่อมทอนซิลอักเสบ หรือเสียงแห้งแค่นี้

ถึงขนาดต้องนั่งรถเข็นเลย ผ่านมานานหรือยัง ?
อาชาย : ก็ผ่านมา 10 ปีกับอีก 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่ปี 2552 จริงๆที่เราจำได้แม่น ไม่ใช่เป็นคนช่างจำนะ แต่เป็นคนช่างจดด้วย เวลาอยู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร มีสมุดก็เขียนไปเรื่อยๆ



จากที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วันหนึ่งต้องมาป่วยแล้วเดินไม่ได้ รู้สึกยังไงบ้าง ?
อาชาย : จริงๆ อาเป็นคนลูกบ้าเยอะนะเวลาอยู่หน้าเวที เคยสนุกสนาน ได้เต้นด้วยอะไรด้วย พอมาอย่างนี้ เราก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน แต่บางทีก็อดไม่ได้นะ ลุกขึ้นมา แฟนเพลงเขาก็เป็นห่วงว่าเราจะล้มเหมือนกัน

อยากจะฝากอะไรถึงคนที่ดื่ม หรือสูบบุหรี่ ไม่ดูแลตัวเองบ้าง ?
อาชาย : สมัยนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ มันสารพัดโรคแล้ว บุหรี่มันเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะ นักร้องถ้าเลิกได้ เสียงร้องก็จะดีขึ้นด้วย



คลิปสัมภาษณ์ ชาย เมืองสิงห์