“ชัชชาติ”ห่วงหลายพรรคชูประชานิยมเพิ่มหนี้สาธารณะ

2019-03-03 23:00:01

“ชัชชาติ”ห่วงหลายพรรคชูประชานิยมเพิ่มหนี้สาธารณะ

Advertisement

“ชัชชาติ”อาสาแก้ปัญหาปากท้องชาวลำปางผ่านการเชื่อมโยงภายในประเทศและต่างประเทศด้วยคมนาคมและเทคโนโลยี ห่วงหลายพรรคนำเสนอนโยบายประชานิยมอย่างหนัก เพิ่มหนี้สาธารณะ สร้างความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ  

เมื่อวันที่ 3 มี.ต. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายนพดล ปัทมะ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ร่วมวงพูดคุยกับประชาชนที่พิพิธภัณฑ์ศาสตราวุธโบราณลำปาง (วัดดอนไชย) ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ร่วมกับนายกิตติกร โล่ห์สุนทร ผู้สมัคร ส.ส. ลำปาง เขต 1 โดยประชาชนที่มาส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาชลประทานเพื่อเอาน้ำจากเขื่อนกิ่วลมมาทำเกษตร ซึ่งนายชัชชาติ รับจะนำไปปรับปรุงระบบชลประทาน และดูแลราคาพืชผลการเกษตร ต่อยอดบัตรคนจนพัฒนาให้ครอบคลุม และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดลำปาง หลังจากนั้นเดินชมสินค้าวิสาหกิจชุมชน เช่น ดาบที่กระจายกันผลิตชิ้นส่วนต่างๆ หลายครัวเรือน แล้วโพสต์ขายทางออนไลน์ นายชัชชาติ ได้ชักดาบออกมาดู และมีคนถามขึ้นมาว่า “ลองตัดรัฐธรรมนูญได้ไหม?” นายชัชชาติ ตอบว่า “เอาอย่างนั้นเลยเหรอ? ผิดกฎหมายนะ เกลาพอได้มั้ง” ก่อนจะเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สำนักสุสานไตรลักษณ์ ชมนิทรรศการประวัติชีวิต ถวายผ้าไตรจีวร และขึ้นรถม้า 


ช่วงบ่าย นายชัชชาติ และคณะ เดินทางมาที่โรงแรมลำปางเวียงทอง พบกับนายพินิจ จันทรสุรินทร์, นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัคร ส.ส. ลำปาง เขต 2 (อำเภอเมืองปานวังเหนือ แจ้ห่ม และงาว) เบอร์ 7 เพื่อบรรยายนโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยและรับฟังปัญหาภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง โดยมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้หนี้เสียของ SMEs และภาคเกษตรเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าภาระหนี้ของคนไทยส่วนใหญ่มากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทยอธิบายได้ 3 แบบคือ ‘แข็งบน อ่อนล่าง’ คือกระจายรายได้สู่ด้านล่างน้อย กระจุกอยู่แต่ด้านบน การบริโภคของเอกชนก็ขยายแต่คนกลุ่มบน รายได้ต่อหัวสูงกระจุกอยู่ที่เขตเมืองหลวงและเขตอุตสาหกรรม, ‘แข็งนอก-อ่อนใน’ เศรษฐกิจไทยพึ่งการท่องเที่ยวและการส่งออกเยอะ ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดีเศรษฐกิจในประเทศก็ไม่ดีไปด้วย ขณะเดียวกันกำลังซื้อของคนตัวเล็กภายในประเทศลดลง, ‘อดีตแข็งกว่าตอนนี้’ เศรษฐกิจไทยในอดีตเคยเติบโตมากกว่าปัจจุบัน เนื่องจากที่ผ่านมามีความขัดแย้งทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจ ซึ่งนายชัชชาติหวังว่าหลังเลือกตั้งจะมีความมั่นใจกลับมาและเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม อย่างไรก็ตามนายชัชชาติ กล่าวว่า ในปัจจุบันรายจ่ายของรัฐเกินกว่ารายได้ หรือการเก็บภาษีไปมาก และอีก 3 ปีข้างหนย้าจากการใช้จ่ายของรัฐบาลในปัจจุบันขึ้นจากร้อยละ 41 เป็นร้อยละ 48 ข้าราชการแข็งแรงเพราะมีเงินเดือน แต่คนตัวเล็กๆ อ่อนแอลง แสดงถึงว่ารัฐราชการใหญ่ขึ้น ขณะที่การปล่อยกู้ภายในประเทศให้กับคนตัวเล็กน้อยลง เงินทุนไหลออกนอกประเทศมากขึ้น เพราะคนไม่มีความมั่นใจในการลงทุนภายในประเทศ ส่งผลให้ไม่เกิดการสร้างงานภายในประเทศไปด้วย สรุปคือมีปัจจัยเสี่ยง 6 ข้อ คือ 1.ค่าเงินบาทที่แข็งอย่างต่อเนื่อง 2.สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน 3.เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว 4.สงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน 5.ค่าใช้จ่ายเชิงประชานิยมที่สูงมากขึ้นรวมทั้งพรรคการเมืองต่างๆ นำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการที่แจกเงินจำนวนมาก 6.หนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มสูงมากขึ้น 


นายชัชชาติ ชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยมี 6 ยุทธศาสตร์ ที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้คือ 1. ไทยทำ: สร้างแบรนด์ไทยให้เข้มแข็งและเป็นที่ต้องการของตลาด 2. ไทยทันสมัย: เพิ่มเทคโนโลยีสนับสนุนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น 3. ไทยเท่าเทียม: รัฐต้องกระจายอำนาจและงบประมาณท้องถิ่นบริหารจัดการเอง มีสวสัดิการที่เท่าเทียมกัน 4. ไทยเชื่อมไทย: มีโครงข่ายอินเตอร์เน็ตและมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงหลายจังหวัดสำคัญทั่วประเทศ 5. ไทยเชื่อมโลก: เจรจาทางการค้าเพิ่มตลาด เชื่อมโยงไทยกับต่างชาติทั้งทางออนไลน์ ด่าน สนามบิน 6. ไทยยั่งยืน: แก้ปัญหาคอร์รัปชัน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ 


สำหรับจังหวัดลำปาง นายชัชชาติ บอกว่า รายได้จากการท่องเที่ยวยังอยู่ในหลักพันล้าน ในขณะที่เชียงใหม่มีรายได้ในหลักแสนล้าน โจทย์คือจะต้องทำยังไงให้มีการท่องเที่ยวเชิงกลุ่ม ดึงจุดเด่นของจังหวัดมาเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวเช่น ทำเซรามิก รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ เติมเงินให้คนไทยโดยเพิ่มแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กกู้ยืม รวมทั้งเป้าหมายในการสร้างเศรษฐีใหม่จากการหาจุดเด่นเฉพาะตัวของท้องถิ่นมาสร้างรายได้




ด้านนายนพดล กล่าวว่า ถึงเวลาที่ไทยต้องผลิตสินค้าคุณภาพสูง สินค้าออร์แกนิก พรรคมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนาพักชำระหนี้ 3 ปี ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้ชาวนาตันละ 15 บาท ขายในตลาดได้ 6,000 บาทต่อเกวียน พรรคจะมีนโยบายสนับสนุนไปอีก 5,000 บาท เป็น 11,000 บาทต่อเกวียน เพิ่มพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ เปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้มีการโอนเพื่อใช้ประโยชน์ได้ เช่น ถ้าพ่อแม่มีที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 แต่ลูกไม่ได้ทำอาชีพเกษตรกรต่อ สามารถเอามาเข้าธนาคาร ส.ป.ก.4-01 เปลี่ยนเป็นเงินและให้ที่ดินนี้กับเกษตรกรคนอื่นทำมาหากินต่อได้ ‘ป่าพารวย’ จ้างชาวบ้านดูแลป่า ร่วมปลูกไม้ที่มีมูลค่าสูง นอกจานี้นายนพดล ยังตอบคำถามประชาชนด้านการศึกษา ยืนยันมีนโยบายสร้างความคล้องตัวให้กับโรงเรียนในการบริหารงาน จัดโครงการตรงกับความต้องการของนักเรียน รวมทั้งยกเลิกการจัดค่าใช้จ่ายให้กับโรงเรียนตามรายหัวของนักเรียนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมทั้งยืนยันให้เรียนฟรี 15 ปีต้องฟรีจริง เป็นวาระสำคัญของพรรค

นอกจากนี้ยังมีนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยสะท้อนปัญหาระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยว่ามีความเหลื่อมล้ำ ยกตัวอย่างการทำโครงงานเป็นคะแนนส่วนหนึ่งในการคัดเลือกซึ่งนักเรียนต่างจังหวัดไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายเท่ากับเด็กนักเรียนในเมือง หรือถ้าเป็นเด็กนักเรียนยากจนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์พกพาก็จะทำให้เสียเปรียบนักเรียนในเมือง และไม่ตอบโจทย์การทดสอบความรู้อย่างแท้จริง ซึ่งนายชัชชาติ รับจะไปปรึกษากับทางพรรคเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป และช่วงเย็น นายชัชชาติ และคณะขึ้นรถแห่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 หาเสียงและทักทายประชาชนรอบเทศบาลนครลำปาง บริเวณตลาดอัศวิน อ.เมือง