“สุเทพ-หม่อมเต่า” ลุยชุมชน 70 ไร่ช่วยลูกพรรคหาเสียง ชี้ ” พล.อ.ประยุทธ์” ดีเบตหรือไม่เป็นแค่ประเด็นโจมตี เตือนใครวิจารณ์ที่มา ส.ว.ควรคำนึงถึงเสียงประชาชน 16.8 ล้านเสียงที่รับลงมติรับ รธน.ด้วย อยู่ประเทศไทยต้องเคารพกฎหมาย แจงหากร่วมรัฐบาลขอกระทวงเกษตรฯ –กระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 1 มี.ค. ที่โรงงานยาสูบ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) พร้อมด้วยสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้ง รปช. นายสำราญ รอดเพชร ลงพื้นที่เขตคลองเคย วัฒนา เพื่อช่วยนายพีรสุต จันทรานุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.หมายเลข 4 หาเสียง
ต่อมาที่ชุมชน 70 ไร่ นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ ระหว่างหาเสียงว่า ได้รับการตอบรับจากพี่น้องดีอบอุ่นดีมอบขนมให้กำลังใจ ให้ดอกไม้ ให้พวงมาลัย ก็ต้องกราบขอบคุณพี่น้องชาวชุมชน 70 ไร่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ช่วยกันสนับสนุนพรรค รปช.ให้แข็งแร็งยิ่งขึ้น
ต่อข้อถามว่า กรณีที่ กกต.ให้พล.อ.ประยุทธ์ ดีเบต และช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ นายสุเทพกล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย อยู่ในประเทศไทยเวลานี้ต้องหนักแน่น กฎหมายว่าอย่างไร เราต้องทำตามกฎหมายอย่างนั้น อะไรที่กฎหมายไม่ได้ห้ามก็ทำได้ ส่วนจะเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบนั้น ก็เป็นปกติ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ สมมติว่า อีก 8 ปี หรือ 16 ปีข้างหน้าถึงวันเลือกตั้งก็จะมีคนเป็นนายกฯอยู่ ถึงวันนั้นก็อยู่ในสภาพเดียวกับวันนี้ คิดว่าเป็นประเด็นที่ยกขึ้นมาโจมตีพล.อ.ประยุทธ์มากกว่า เราคนไทยต้องทำใจให้นิ่ง ว่าเราอยู่ในกรอบกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายแต่ถ้าทำอะไรผิดกฎหมายเราก็ต้องไม่ยอม
เมื่อถามถึงการตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในเวลานี้มองอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญกำหนดที่มาของ ส.ว.ไว้ชัดเจน ถึงได้บอกว่าทุกคนต้องคิดว่า การที่จะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเดินหน้าไปได้ต้องเคารพกฎหมาย กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก่อนจะประกาศใช้ประชาชน 16 ล้าน 8 แสน คนประชาชนได้ศึกษาและพิจารณาแล้วว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมที่จะเอามาใช้เป็นกฎหมายแบบบทของประเทศไทย เพราะฉะนั้นใครจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรขอให้ว่าให้ได้คำนึงว่า ประชาชน 16 ล้าน 8 แสน คน เขาเป็นคนอนุมัติ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในการหาเสียงที่บอกว่าจะขอวงเป็น รมว.เกษตรฯ ดูเป็นการจองเก้าอี้ ตรงนี้จะบอกประชาชนอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการจองเก้าอี้ เพราะไม่มีสิทธิ แต่บอกกับพี่น้องประชาชนว่าถ้า รปช.ได้รับเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล เราสนใจที่จะบริหารงาน 2 กระทรวงคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไปกระทรวงเกษตรฯเพราะเราต้องการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายผลผลิตแล้วมีกำไร วันนี้เกษตรกรขายผลผลิตไม่มีกำไร และที่ต้องการเข้าไปบริหารกระทรวงศึกษาธิการนั้น เพราะเราต้องการปฏิรูปบริหารจัดการทางด้านการศึกษาเพื่อที่จะให้ลูกหลานของประชาชนมีความรู้มีคุณธรรม เป็นมืออาชีพที่สามารถทำมาหากินตั้งครอบครัวใหม่ได้และต้องเป็นการศึกษาฟรีที่ไม่เป็นภาระของประชาชนต่อไป เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
