ตำรวจเสิงสาง รวบมือทำลายป้ายหาเสียงแรมโบ้อีสาน สารภาพทำเพราะเมาไม่ได้มีใบสั่ง
วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือแรมโบ้อีสาน ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครราชสีมา เขต 10 หมายเลข 2 พรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ว่าถูกมือดีทำลายป้ายหาเสียงและขโมยป้ายหายไปกว่า 100 ป้าย ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา สามารถสืบสวนและติดตามจับตัวกลุ่มคนร้ายที่ลงมือทำลายป้ายหาเสียงของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 10 หมายเลข 2 พรรคพลังประชารัฐได้รวม 3 คน เป็นชายไทยอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง อายุระหว่าง 18 - 21 ปี (ทางเจ้าหน้าที่ขอสงวนชื่อสกุลและรายละเอียดเนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวน) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตั้งวงดื่มสุรา และมีอาการมึนเมา จึงคึกคะนองก่อเหตุทำลายป้ายหาเสียงซึ่งติดตั้งอยู่ภายในบ้านห้วยเตย ต.บ้านราษฎร์ จำนวน 1 ป้าย แต่ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุ หรือทำไปเพราะหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด
ต่อมานายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้เดินทางมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตัวเข้าไปสอบถามถึงเหตุผลจากผู้ที่ก่อเหตุ ถึงสาเหตุของการกระทำ ขณะเดียวกันบรรดาญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ถูกจับกุมและได้เข้าไปกล่าวขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และขอร้องไม่ให้เอาเรื่องเอาราว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยความคึกคะนองไม่ได้หวังผลทางการเมือง ซึ่งนายสุภรณ์ฯ ก็รับปากว่าหากผลการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชัดเจนว่าเกิดจากความคึกคะนองก็จะไม่เอาเรื่องจนถึงที่สุด
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน เปิดเผยว่า หลังจากนี้คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการหวังผลทางการเมือง เป็นเพียงแค่เรื่องของความคึกคะนอง ของวัยรุ่นที่ดื่มสุรา ก็คงไม่ติดใจเอาความอะไร แต่หากผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือมีผู้อยู่เบื้องหลัง ที่ต้องการจะทำลายป้ายหาเสียงเพื่อหวังผลทางการเมือง ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ตนเองคงไม่ไปก้าวล่วงในการทำหน้าที่ของทางตำรวจ
นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า การทำลายป้ายหาเสียงและอุ้มป้ายหายไปจำนวนกว่า 100 ป้ายตามที่ได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้นั้น ส่วนตัวคิดว่าบางส่วนก็อาจจะถูกกระทำโดยกลุ่มที่มีความคึกคะนองบ้าง รวมไปถึงมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังคงมีปัญหาในหลายจุด มีป้ายที่หายไปอีกหลายจุด ติดวันนี้แล้วก็ถูกอุ้มหายไปเลยก็มี ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร อย่างไรก็ตามการจับตัวผู้กระทำความผิดได้ในครั้งนี้ต้องขอบคุณไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง ที่ได้ทำหน้าที่ในการติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง จนนำมาสู่การจับกุมในที่สุด แต่ก็ย้ำว่าหากเหตุการณ์นี้เป็นเหตุของการคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นตนเองก็ไม่อยากที่จะเอาเรื่อง แต่หากเป็นการกระทำโดยมีผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการเพื่อหวังผลทางการเมืองก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเอาผิดอย่างเด็ดขาด