นรข.นครพนมจับกัญชา 200 กก.

2019-02-28 11:25:22

นรข.นครพนมจับกัญชา 200 กก.

Advertisement

นรข.นครพนม ยึดกัญชานำเข้ากว่า 200 กก. มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุม แต่ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติไหวตัวทัน


เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีเรือ อ.บ้านแพง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม (นรข.) น.อ. อภิชาต แก้วดวงเทียน ผบ.นรข.เขต นครพนม มอบหมายให้ น.ท.สิทธิศักดิ์ สิทธิกุล หน.สน.เรือบ้านแพง พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงการณ์ตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง จำนวน 8 กระสอบ รวมจำนวน 272 แท่ง น้ำหนักแท่งละประมาณ 1 กก. รวมน้ำหนัก 272 กก. โดยตรวจยึดได้ หลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำเข้ากัญชาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามาในชายแดน พื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงระดมกำลังลงพื้นที่ลาดตระเวนสกัดกั้นปราบปรามจับกุม จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้พบชายต้องสงสัยจำนวน 5-6 คน ได้พยายามนำเรือหางยาวลักลอบลำเลียงกัญชาบรรจุกระสอบปุ๋ยนำมาจาก สปป.ลาว เพื่อนำมาพักไว้ริมฝั่งน้ำโขง บ้านเหล่าสวนกล้วย หมู่ที่ 4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม แต่ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติได้ไหวตัว ขับเรือหางยาวหนีทัน

ภายหลังเจ้าหน้าที่ นรข. ได้เข้าตรวจยึดของกลางพบกัญชาทั้งหมด 8 กระสอบ ตรวจนับได้ จำนวน 272 กก. คาดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากมีราคาซื้อขายในฝั่งไทย ประมาณกิโลกรัมละ 20,000 บาท โดยจะได้เร่งสืบสวนติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี เชื่อว่ากัญชาดังกล่าวจะมีการลำเลียงมาพักรอการส่งต่อไปขายที่จังหวัดตอนในของประเทศ ซึ่งจากสถิติการจับกุมในช่วงต้นปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันมีการตรวจยึดกัญชาในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มากกว่า 2 ตัน และในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา มีการตรวจยึดมากกว่า 9 ตัน และมีแนวโน้มลักลอบนำเข้ามากขึ้น


โดยทาง นรข. ยังคงเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นกราบปรามจับกุมตลอดแนวชายแดน เนื่องจากในช่วงนี้มีแนวโน้มลักลอบนำเข้ามากขึ้น เพราะเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากกระแส การออก พ.ร.บ.ยาเสพติด กัญชาเพื่อการแพทย์ ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดฉวยโอกาส นำเข้ามากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังยืนยันว่า ไม่สามารถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายหรือมีไว้ครอบครองได้ เนื่องจากยังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 ซึ่งสามารถมีไว้ครอบครองหรือปลูกได้ เฉพาะกลุ่มที่กฎหมายระบุไว้ รวมถึงผู้ที่ได้รับอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น